กูตูปาลอง 28 ก.ค. – คณะผู้แทนที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมียนมา เปิดการเจรจาเรื่องการส่งตัวกลับประเทศกับผู้นำชาวโรฮิงญา ที่ค่ายผู้อพยพในบังกลาเทศเมื่อวานนี้ หลังจากที่ชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาจำนวนมากที่หวั่นเกรงจะไม่ปลอดภัยหากเดินทางกลับเมียนมา
คณะผู้แทนของเมียนมา ซึ่งนำโดยนายมิ้นต์ ตู ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา เดินทางถึงเมืองค็อกซ์ บาซาร์ เมื่อวานนี้ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา นายโมฮัมหมัด อับดุล คาลาม กรรมาธิการด้านผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศ กล่าวว่า คณะผู้แทนเมียนมา เดินทางไปยังเขตคูตูปาลอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายผู้อพยพที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจะเปิดการเจรจาหารือกับผู้นำชุมชนชาวโรฮิงญาเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทั้งสองฝ่ายมีท่าทีในทางบวกเกี่ยวกับการส่งตัวชาวโรฮิงญากลับเมียนมาและการหารือจะดำเนินต่อไปในวันนี้ ในขณะที่หนึ่งในคณะผู้นำของโรฮิงญาที่เข้าร่วมในการเจรจากล่าวว่า การเจรจาดำเนินไปด้วยดีและเขาย้ำข้อเรียกร้องของโรฮิงญาที่ให้เมียนมารับรองสถานะชาวโรฮิงญาว่าเป็นหนึ่งในชาติพันธุ์ของเมียนมา โดยก่อนหน้านี้เมียนมาไม่ให้สถานภาพพลเมืองแก่โรฮิงญา โดยอ้างถึงชาวโรฮิงญาว่าเป็นเบงกาลี ซึ่งหมายถึงผู้เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ ชาวโรฮิงญาราว 740,000 คนหลบหนีอพยพข้ามชายแดนมายังบังกลาเทศ หลังจากกองทัพเมียนมาปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในรัฐยะไข่เมื่อปี 2017 และขณะนี้อยู่ในค่ายผู้อพยพในเมืองค็อกซ์ บาซาร์ บริเวณชายแดนบังกลาเทศในสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ เมียนมาและบังกลาเทศลงนามในข้อตกลงส่งชาวโรฮิงญากลับประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 แต่จนถึงขณะนี้แทบจะไม่มีผู้อพยพคนใดสมัครใจกลับประเทศเลย.-สำนักข่าวไทย