วอชิงตัน 24 ก.ค.- คณะนักวิจัยเผยผลสแกนสมองนักการทูตอเมริกันที่มีอาการป่วยลึกลับระหว่างปฏิบัติหน้าที่ที่สถานทูตสหรัฐในกรุงฮาวานาของคิวบาว่า แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับสมองของกลุ่มควบคุม แต่ไม่ได้สรุปสาเหตุที่ทำให้ป่วยลึกลับ
คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียเผยผลการศึกษาลงในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกันว่า ผลการใช้เครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอ็มอาร์ไอ (MRI) สแกนสมองนักการทูตและครอบครัวที่มีอาการป่วย 44 คน เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม 48 คน พบความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญในทางสถิติ และมีความเกี่ยวข้องกับสมองเนื้อสีขาวที่เป็นเนื้อเยื่อด้านในที่ไม่มีเซลล์ประสาท และซีรีเบลลัมที่ควบคุมการเคลื่อนไหวและทรงตัว อาการป่วยลึกลับไม่ ใช่การคิดไปเองและไม่ได้เกิดจากสภาพร่างกายก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาไม่ได้สรุปสาเหตุที่ทำให้นักการทูตและครอบครัวป่วยโดยหาสาเหตุไม่ได้ มีตั้งแต่เสียการทรงตัว ตาเคลื่อนไหวไม่ปกติ กังวล และมีปัญหาในกระบวนการคิด เหตุเกิดระหว่างปลายปี 2556 ถึงเดือนพฤษภาคมปีก่อน
สหรัฐเรียกนักการทูตเกือบทั้งหมดกลับประเทศตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 และไม่เคยเปิดเผยสาเหตุการป่วยต่อสาธารณะ รวมทั้งไม่ยืนยันหรือปฏิเสธว่าเกิดจากอาวุธคลื่นเสียงตามที่สื่อบางแห่งรายงานหรือไม่ ขณะที่คิวบายืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น นอกจากนักการทูตอเมริกันแล้ว ยังมีนักการทูตแคนาดาอย่างน้อย 14 คนป่วยลึกลับเช่นเดียวกัน ทำให้แคนาดาเรียกนักการทูตเกือบทั้งหมดกลับประเทศเมื่อเดือนมกราคมปีนี้.-สำนักข่าวไทย