นิวยอร์ก 23 ก.ค.- ลมแรงและฝนตกหนักทำให้ประชาชนหลายแสนคนทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐไม่มีไฟฟ้าใช้ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่สถานการณ์คลื่นความร้อนทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์คลี่คลายลงแล้ว
สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐแจ้งว่า คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมประชากรหนึ่งในสามของประเทศทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองเมื่อวันจันทร์ มีรายงานต้นไม้ล้มสร้างความเสียหายให้แก่สายไฟฟ้าและหม้อแปลงไฟฟ้ามากมายทั่วรัฐนิวเจอร์ซีย์และทางใต้ของรัฐนิวยอร์ก บางพื้นที่ลมแรงถึง 129 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เว็บไซต์ติดตามไฟฟ้าดับในสหรัฐแจ้งว่า พื้นที่ที่เดือดร้อนหนักที่สุดคือรัฐนิวเจอร์ซีย์ ผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 300,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงเช้าวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ชาวนิวยอร์กไฟฟ้าดับเป็นครั้งสองของเดือนนี้ หลังจากเพิ่งดับไปเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ครั้งนั้นบ้านเรือนและธุรกิจกว่า 73,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้นานสามชั่วโมง ครั้งนี้ไม่มีใช้ประมาณ 22,000 ราย ขณะที่ผู้ใช้ไฟฟ้าในรัฐมิชิแกนประมาณ 150,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้จนถึงวันนี้ เพราะพายุฝนฟ้าคะนองทำให้ระบบจ่ายไฟฟ้าในเขตมหานครดีทรอยต์เสียหาย
อย่างไรก็ดี มีข่าวดีว่าสถานการณ์คลื่นความร้อนคลี่คลายลงแล้ว อากาศเริ่มเย็นลง อุณหภูมิในนครนิวยอร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์และตะวันออกเฉียงเหนือโดยรวมอยู่ที่ 21-27 องศาเซลเซียส หลังจากหลายแห่งอุณหภูมิทำสถิติสูงสุดในวันเดียวเมื่อวันเสาร์ เช่น ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์นเอฟเคนเนดีและท่าอากาศยานดีทรอยต์ที่ร้อนถึง 37.2 และ 36.1 องศาเซลเซียสตามลำดับ.- สำนักข่าวไทย