คาดคำสั่งสหรัฐแบนหัวเว่ยจะเป็นประโยชน์ต่อมาเลเซีย

เปตาลิงจายา 27 พ.ค.- นักเศรษฐศาสตร์มาเลเซียมองว่า คำสั่งของสหรัฐที่ห้ามบริษัทอเมริกันขายเทคโนโลยีให้แก่หัวเว่ย เทคโนโลยี ผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนใหญ่อันดับสองของโลกอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนในมาเลเซีย 


เว็บไซต์ฟรีมาเลเซียทูเดย์อ้าง ศ.กิตติคุณ ดร.บาร์จอไย บาร์ได อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งชาติมาเลเซีย หรือยูเคเอ็ม (UKM) ว่า มาเลเซียซึ่งผลิตชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนเพื่อส่งออกอยู่แล้วอาจขึ้นเป็นผู้จัดส่งชิปและชิ้นส่วนแทนจีน นอกจากนี้จีนอาจว่าจ้างบริษัทมาเลเซียที่มีความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีในการผลิตแทน ดังนั้นมาเลเซียจึงน่าจะได้ประโยชน์จากวิกฤตนี้ มาเลเซียส่งออกชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนแล้วกว่าร้อยละ 16 ของการส่งออกทั้งหมดจนถึงเดือนตุลาคม 2560 ขณะที่รายงานของดิอีโคโนมิสต์คาดว่า บริษัทอเมริกันน่าจะสูญเสียรายได้จากการให้ใบอนุญาตชิปและชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนปีละ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 317,869 ล้านบาท) เพราะอุตสาหกรรมการผลิตฮาร์ดแวร์ของจีนส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนของสหรัฐที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่นหรือผลิตได้เองในจีน 

อย่างไรก็ดี ศ.กิตติคุณ ดร.บาร์จอไยเตือนว่า อุปสรรคอาจเกิดขึ้นหากซัพพลายเออร์ของมาเลเซียเป็นผู้ผลิตอเมริกันที่อาจได้รับคำสั่งจากรัฐบาลไม่ให้จัดส่งหรือร่วมมือกับบริษัทที่ค้าขายกับจีน มาเลเซียสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียโอกาสนี้ได้ด้วยการเป็นฝ่ายริเริ่มก่อน เช่น เสนอการลงทุนร่วมกับจีนในระดับของรัฐบาลกับรัฐบาล หรือเสนอประกอบชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนในมาเลเซีย สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับว่าจีนมีความต้องการร่วมมือในลักษณะนี้มากน้อยเพียงใด 


ด้าน ดร.นายฮู คีปิง นักเศรษฐศาสตร์มาเลเซียเห็นด้วยว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนน่าจะเป็นประโยชน์ทางธุรกิจให้แก่ประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ บริษัทข้ามชาติที่เป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาตั้งฐานการผลิตใหม่ในเวียดนาม บังกลาเทศ สิงคโปร์ และมาเลเซีย เขามองว่า  ในระยะสั้นบริษัทมาเลเซียน่าจะได้คำสั่งซื้อมากขึ้น เพราะแทนที่จะผลิตชิ้นส่วนเพื่อส่งออกไปจีน อาจผลิตเพื่อส่งกลับไปสหรัฐได้โดยตรง แต่ในระยะยาว สงครามการค้าไฮเทคสหรัฐ-จีนเต็มรูปแบบจะเป็นหายนะของหลายประเทศรวมทั้งมาเลเซีย เพราะจะทำให้ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี (GDP) ลดลงทั่วโลก และจะกระทบต่อมาเลเซียอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ไม่ว่าไม้สัก น้ำมันปาล์ม ปิโตรเลียม หรือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ถูกกดดัน หากสงครามการค้ายืดเยื้ออาจทำให้มาเลเซียเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเร็วขึ้น .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก