“เดวิด มัลพาสส์” นั่งแท่นประธานเวิลด์แบงก์คนใหม่

สหรัฐ 8 เม.ย. – ตั้งปลัดคลังสหรัฐคนสนิทผู้นำสหรัฐ เป็นประธานเวิลด์แบงก์คนใหม่ คาดปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่…ตามใบสั่งโดนัลด์ ทรัมป์


การเลือก “เดวิด มัลพาสส์” ปลัดกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้นั่งเก้าอี้ประธานธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ถือเป็นการเปิดโฉมหน้าว่าที่ผู้นำองค์กร การเงินระดับโลกคนใหม่ ซึ่งกำลังถูกจับตาว่าจะดำเนินนโยบายการเงินโลกเอื้อกับจุดยืนของทรัมป์หรือไม่



มัลพาสส์ซึ่งเข้ารับตำแหน่งประธานธนาคารโลกในวันที่ 9 เม.ย.นี้ (เวลาท้องถิ่น) เป็นเพียงบุคคลเดียวที่ถูกเสนอชื่อให้ ดำรงตำแหน่งนี้ซึ่งมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี แต่การเสนอชื่อเขาโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อช่วงต้นปีนี้ ได้โหมกระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายเห็นต่าง ซึ่งมองว่า เป็นการสบประมาทองค์กรแห่งนี้ซึ่ง มีภารกิจอันสำคัญยิ่งในการต่อต้าน ความยากจนทั่วโลก

ธนาคารโลก แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า “การเลือก มัลพาสส์ โดย คณะกรรมการบริหารของธนาคารโลก มีขึ้นตามหลังกระบวนการเสนอชื่อที่ เปิดกว้างและโปร่งใส ซึ่งพลเมืองของ แต่ละประเทศสมาชิกต่างมีสิทธิถูก เสนอชื่อ” การประกาศเลือกประธานธนาคารโลกคนใหม่ ซึ่งเป็นไปตามที่คาดหมาย มีขึ้น ก่อนสมัยการประชุมร่วมฤดูใบไม้ผลิของเวิลด์แบงก์กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ธนาคาร แห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ประธานของเวิลด์แบงก์ทุกคนที่ผ่านมาล้วนเป็นชาวอเมริกัน ตามกฎระเบียบที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรหนึ่งซึ่งรับประกันเช่นกันว่าตัวแทนจากยุโรปจะได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดในสถาบันพี่น้องกัน คือ ไอเอ็มเอฟ

เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังวัย 63 ปีรายนี้ ซึ่งรับหน้าที่ดูแลกิจการระหว่างประเทศ เคยวิพากษ์วิจารณ์เวิลด์แบงก์และไอเอ็มเอฟ อย่างดุเดือด โดยเขาบอกว่าทั้ง 2 องค์กรล้วนเป็นสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่ “ทุจริต” และ “ไร้ประสิทธิภาพ” พร้อมยังวิจารณ์ที่เวิลด์แบงก์ที่เอื้อเฟื้อจีนมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ มัลพาสส์ ได้แสดงท่าทีโอนอ่อนลง โดยบอกว่า เขาจะมุ่งมั่นในภารกิจของธนาคารโลก ในการขจัดความยากจนและจะพยายามปฏิรูปสถาบันนี้ตามแผนที่ได้รับการอนุมัติเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งใส่ใจต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาของเขา ในนั้นรวมถึงการจำกัด การปล่อยกู้ และเพิ่มอัตราดอกเบี้ย แก่ประเทศที่มีรายได้สูงอย่างจีนด้วยสหรัฐควบคุมสิทธิโหวตส่วนใหญ่ในธนาคารโลก และตำแหน่งประธานเวิลด์แบงก์นี้ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้วจะมาจากประเทศที่ถือหุ้นใหญ่ที่สุด ซึ่งก็คือสหรัฐ ประธานของเวิลด์แบงก์ทุกคนที่ผ่านมาจึงล้วนเป็นชาวอเมริกัน

แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหล่าประเทศเกิดใหม่ส่งเสียงท้าทายข้อตกลงที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับตำแหน่งผู้นำเวิลด์แบงก์และไอเอ็มเอฟ โดยเรียกร้องให้เปิดกว้างมากขึ้นและมีกระบวนการ คัดเลือกบนพื้นฐานของความเหมาะสม ธนาคารโลกรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นและตอนนี้ยอมให้กระบวนการสรรหาเปิดกว้างมากขึ้น แต่หลายปีที่ผ่านมา เหล่าผู้สมัครที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันต่างได้รับเสียงสนับสนุนเพียงเล็กน้อยจากบรรดาหุ้นส่วนใหญ่ของธนาคารแห่งนี้

กระบวนการสรรหาประธานธนาคารโลกคนใหม่ มีขึ้นหลังจากที่ จิม ยอง คิม ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานธนาคารโลกเมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. แม้ว่าเขา ยังเหลือระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่มากกว่า 3 ปี ก่อนครบวาระในปี 2565 หลังจากที่เขาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารโลกสมัยที่ 2 เมื่อปี 2559

ทั้งนี้ สหรัฐซึ่งมีสิทธิออกเสียงมากที่สุดในธนาคารโลกนั้น มีส่วนในกระบวนการเลือกสรรประธานธนาคารโลกนับตั้งแต่ ที่องค์กรได้เริ่มดำเนินการในปี 2489

มนูชิน เสริมว่า มัลพาสส์เหมาะสม ตามอุดมคติที่จะเป็นผู้นำเวิลด์แบงก์ ขณะที่ อิวานกากล่าวว่า เธอเชื่อว่าเขาจะเป็นผู้นำที่ไม่ธรรมดา

รมว.มั่นคงมาตุภูมิสหรัฐ ลาออก เซ่นปัญหาผู้อพยพ

เคิร์สต์เจน นีลเซน (Kirstjen Nielsen) รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวานนี้ (7 เม.ย.) หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงความไม่พอใจที่มีผู้อพยพจากเม็กซิโกหลั่งไหลมายังพรมแดนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งเผยว่า ทรัมป์ เป็นผู้ขอให้ นีลเซน ลาออกเอง ซึ่งเธอก็ยินยอมโดยผู้นำสหรัฐฯ ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า “รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เคิร์สต์เจน นีลเซน กำลังจะลาออกจากตำแหน่ง และผมขอขอบคุณเธอที่ได้อุทิศตนรับใช้บ้านเมือง”

ทรัมป์ ระบุว่า เควิน แมคคาลีนัน (Kevin McAleenan) ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐ จะขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ

นีลเซน วัย 46 ปี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปี 2017 และมีข่าวลือตลอดช่วงปีที่แล้วว่าเธออาจจะลาออก กระทั่งล่าสุดเมื่อเจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ ออกมาเผยว่ามีผู้อพยพถูกสกัดที่ชายแดนเม็กซิโกมากถึง 100,000 คนในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบทศวรรษ

การสกัดกั้นผู้อพยพผิดกฎหมายถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ทรัมป์ ซึ่งได้ชูสโลแกน “สร้างกำแพง” เพื่อลดจำนวนผู้มาใหม่ที่ลักลอบเข้าสหรัฐฯ โดยปราศจากเอกสารที่ถูกต้อง ผู้อพยพที่เพิ่มจำนวนขึ้นในเดือนที่แล้วส่วนใหญ่เป็นประชากรจากอเมริกากลางที่ต้องการลี้ภัยในสหรัฐ

ทรัมป์ หงุดหงิดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถึงขั้นประกาศจะตัดความช่วยเหลือกัวเตมาลา ฮอนดูรัส และเอลซัลวาดอร์ ซ้ำยังขู่จะปิดพรมแดนที่ติดกับเม็กซิโกเสีย ทว่าต่อมาก็เปลี่ยนใจหันมาขู่รีดภาษีชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้าจากเม็กซิโกแทน

ในจดหมายลาออกของเธอ นีลเซน เรียกร้องขอความร่วมมือจากสภาคองเกรสและศาล ซึ่งคัดค้านนโยบายกีดกันผู้อพยพจากชาติมุสลิมและมาตรการจับแยกเด็กๆ ผู้อพยพออกจากพ่อแม่ของ ทรัมป์ มาโดยตลอด

“ดิฉันหวังว่า รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิคนใหม่คงจะได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรสและศาลในการแก้ไขกฎหมายซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการป้องกันชายแดนอเมริกา และมีส่วนสร้างความแตกแยกในชาติของเรา” เธอระบุในจดหมายลาออกที่ส่งถึงทรัมป์

การลาออกของ นีลเซน มีขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากที่ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (5) ว่าจะเลิกเสนอชื่อ โรนัลด์ วิทิเอลโล (Ronald Vitiello) เป็นผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐ (ICE) เนื่องจากอยากได้คนที่ “แข็งกร้าว” กว่านี้

นีลเซน ถูกพวกเดโมแครตในคณะกรรมาธิการคองเกรสซักฟอกมาแล้วหลายครั้ง และยังต้องรับคำวิจารณ์จากผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของทรัมป์ เมื่อปีที่แล้วเธอยังถูกผู้ประท้วงปิดล้อมที่ภัตตาคารอาหารเม็กซิกันแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย

เธอกลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนล่าสุดที่ถอนตัวจากรัฐบาลทรัมป์ ทำให้เวลานี้เหลือคณะรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงอยู่เพียง 4 คน นอกจากนี้ ทรัมป์ ก็ยังสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมและประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอย่างถาวรไม่ได้

เบนนี ทอมป์สัน ส.ส.เดโมแครตซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎร ชี้ว่าการทำงานของ นีลเซน ที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิถือว่าเป็น “หายนะตั้งแต่ต้น” แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่เธอจะต้องกลายเป็นแพะรับบาปจาก “นโยบายที่แย่และทารุณโหดร้าย” ของทรัมป์

เมื่อปีที่แล้ว นีลเซน เผชิญแรงกดดันจากนักวิจารณ์ให้ถอนตัวออกมา หลังจาก ทรัมป์ เริ่มใช้นโยบาย “ความอดทนเป็นศูนย์” (Zero Tolerance) ซึ่งรวมถึงการจับเด็กผู้อพยพแยกออกจากพ่อแม่ โดยหวังข่มขู่ไม่ให้อีกหลายครอบครัวทิ้งบ้านมาแสวงหาชีวิตใหม่ในสหรัฐอเมริกา .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]