“เดวิด มัลพาสส์” นั่งแท่นประธานเวิลด์แบงก์คนใหม่

สหรัฐ 8 เม.ย. – ตั้งปลัดคลังสหรัฐคนสนิทผู้นำสหรัฐ เป็นประธานเวิลด์แบงก์คนใหม่ คาดปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่…ตามใบสั่งโดนัลด์ ทรัมป์


การเลือก “เดวิด มัลพาสส์” ปลัดกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้นั่งเก้าอี้ประธานธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ถือเป็นการเปิดโฉมหน้าว่าที่ผู้นำองค์กร การเงินระดับโลกคนใหม่ ซึ่งกำลังถูกจับตาว่าจะดำเนินนโยบายการเงินโลกเอื้อกับจุดยืนของทรัมป์หรือไม่



มัลพาสส์ซึ่งเข้ารับตำแหน่งประธานธนาคารโลกในวันที่ 9 เม.ย.นี้ (เวลาท้องถิ่น) เป็นเพียงบุคคลเดียวที่ถูกเสนอชื่อให้ ดำรงตำแหน่งนี้ซึ่งมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี แต่การเสนอชื่อเขาโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อช่วงต้นปีนี้ ได้โหมกระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายเห็นต่าง ซึ่งมองว่า เป็นการสบประมาทองค์กรแห่งนี้ซึ่ง มีภารกิจอันสำคัญยิ่งในการต่อต้าน ความยากจนทั่วโลก

ธนาคารโลก แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า “การเลือก มัลพาสส์ โดย คณะกรรมการบริหารของธนาคารโลก มีขึ้นตามหลังกระบวนการเสนอชื่อที่ เปิดกว้างและโปร่งใส ซึ่งพลเมืองของ แต่ละประเทศสมาชิกต่างมีสิทธิถูก เสนอชื่อ” การประกาศเลือกประธานธนาคารโลกคนใหม่ ซึ่งเป็นไปตามที่คาดหมาย มีขึ้น ก่อนสมัยการประชุมร่วมฤดูใบไม้ผลิของเวิลด์แบงก์กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ธนาคาร แห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ประธานของเวิลด์แบงก์ทุกคนที่ผ่านมาล้วนเป็นชาวอเมริกัน ตามกฎระเบียบที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรหนึ่งซึ่งรับประกันเช่นกันว่าตัวแทนจากยุโรปจะได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดในสถาบันพี่น้องกัน คือ ไอเอ็มเอฟ

เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังวัย 63 ปีรายนี้ ซึ่งรับหน้าที่ดูแลกิจการระหว่างประเทศ เคยวิพากษ์วิจารณ์เวิลด์แบงก์และไอเอ็มเอฟ อย่างดุเดือด โดยเขาบอกว่าทั้ง 2 องค์กรล้วนเป็นสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่ “ทุจริต” และ “ไร้ประสิทธิภาพ” พร้อมยังวิจารณ์ที่เวิลด์แบงก์ที่เอื้อเฟื้อจีนมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ มัลพาสส์ ได้แสดงท่าทีโอนอ่อนลง โดยบอกว่า เขาจะมุ่งมั่นในภารกิจของธนาคารโลก ในการขจัดความยากจนและจะพยายามปฏิรูปสถาบันนี้ตามแผนที่ได้รับการอนุมัติเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งใส่ใจต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาของเขา ในนั้นรวมถึงการจำกัด การปล่อยกู้ และเพิ่มอัตราดอกเบี้ย แก่ประเทศที่มีรายได้สูงอย่างจีนด้วยสหรัฐควบคุมสิทธิโหวตส่วนใหญ่ในธนาคารโลก และตำแหน่งประธานเวิลด์แบงก์นี้ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้วจะมาจากประเทศที่ถือหุ้นใหญ่ที่สุด ซึ่งก็คือสหรัฐ ประธานของเวิลด์แบงก์ทุกคนที่ผ่านมาจึงล้วนเป็นชาวอเมริกัน

แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหล่าประเทศเกิดใหม่ส่งเสียงท้าทายข้อตกลงที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับตำแหน่งผู้นำเวิลด์แบงก์และไอเอ็มเอฟ โดยเรียกร้องให้เปิดกว้างมากขึ้นและมีกระบวนการ คัดเลือกบนพื้นฐานของความเหมาะสม ธนาคารโลกรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นและตอนนี้ยอมให้กระบวนการสรรหาเปิดกว้างมากขึ้น แต่หลายปีที่ผ่านมา เหล่าผู้สมัครที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันต่างได้รับเสียงสนับสนุนเพียงเล็กน้อยจากบรรดาหุ้นส่วนใหญ่ของธนาคารแห่งนี้

กระบวนการสรรหาประธานธนาคารโลกคนใหม่ มีขึ้นหลังจากที่ จิม ยอง คิม ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานธนาคารโลกเมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. แม้ว่าเขา ยังเหลือระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่มากกว่า 3 ปี ก่อนครบวาระในปี 2565 หลังจากที่เขาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารโลกสมัยที่ 2 เมื่อปี 2559

ทั้งนี้ สหรัฐซึ่งมีสิทธิออกเสียงมากที่สุดในธนาคารโลกนั้น มีส่วนในกระบวนการเลือกสรรประธานธนาคารโลกนับตั้งแต่ ที่องค์กรได้เริ่มดำเนินการในปี 2489

มนูชิน เสริมว่า มัลพาสส์เหมาะสม ตามอุดมคติที่จะเป็นผู้นำเวิลด์แบงก์ ขณะที่ อิวานกากล่าวว่า เธอเชื่อว่าเขาจะเป็นผู้นำที่ไม่ธรรมดา

รมว.มั่นคงมาตุภูมิสหรัฐ ลาออก เซ่นปัญหาผู้อพยพ

เคิร์สต์เจน นีลเซน (Kirstjen Nielsen) รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวานนี้ (7 เม.ย.) หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงความไม่พอใจที่มีผู้อพยพจากเม็กซิโกหลั่งไหลมายังพรมแดนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งเผยว่า ทรัมป์ เป็นผู้ขอให้ นีลเซน ลาออกเอง ซึ่งเธอก็ยินยอมโดยผู้นำสหรัฐฯ ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า “รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เคิร์สต์เจน นีลเซน กำลังจะลาออกจากตำแหน่ง และผมขอขอบคุณเธอที่ได้อุทิศตนรับใช้บ้านเมือง”

ทรัมป์ ระบุว่า เควิน แมคคาลีนัน (Kevin McAleenan) ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐ จะขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ

นีลเซน วัย 46 ปี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปี 2017 และมีข่าวลือตลอดช่วงปีที่แล้วว่าเธออาจจะลาออก กระทั่งล่าสุดเมื่อเจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ ออกมาเผยว่ามีผู้อพยพถูกสกัดที่ชายแดนเม็กซิโกมากถึง 100,000 คนในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบทศวรรษ

การสกัดกั้นผู้อพยพผิดกฎหมายถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ทรัมป์ ซึ่งได้ชูสโลแกน “สร้างกำแพง” เพื่อลดจำนวนผู้มาใหม่ที่ลักลอบเข้าสหรัฐฯ โดยปราศจากเอกสารที่ถูกต้อง ผู้อพยพที่เพิ่มจำนวนขึ้นในเดือนที่แล้วส่วนใหญ่เป็นประชากรจากอเมริกากลางที่ต้องการลี้ภัยในสหรัฐ

ทรัมป์ หงุดหงิดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถึงขั้นประกาศจะตัดความช่วยเหลือกัวเตมาลา ฮอนดูรัส และเอลซัลวาดอร์ ซ้ำยังขู่จะปิดพรมแดนที่ติดกับเม็กซิโกเสีย ทว่าต่อมาก็เปลี่ยนใจหันมาขู่รีดภาษีชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้าจากเม็กซิโกแทน

ในจดหมายลาออกของเธอ นีลเซน เรียกร้องขอความร่วมมือจากสภาคองเกรสและศาล ซึ่งคัดค้านนโยบายกีดกันผู้อพยพจากชาติมุสลิมและมาตรการจับแยกเด็กๆ ผู้อพยพออกจากพ่อแม่ของ ทรัมป์ มาโดยตลอด

“ดิฉันหวังว่า รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิคนใหม่คงจะได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรสและศาลในการแก้ไขกฎหมายซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการป้องกันชายแดนอเมริกา และมีส่วนสร้างความแตกแยกในชาติของเรา” เธอระบุในจดหมายลาออกที่ส่งถึงทรัมป์

การลาออกของ นีลเซน มีขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากที่ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (5) ว่าจะเลิกเสนอชื่อ โรนัลด์ วิทิเอลโล (Ronald Vitiello) เป็นผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐ (ICE) เนื่องจากอยากได้คนที่ “แข็งกร้าว” กว่านี้

นีลเซน ถูกพวกเดโมแครตในคณะกรรมาธิการคองเกรสซักฟอกมาแล้วหลายครั้ง และยังต้องรับคำวิจารณ์จากผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของทรัมป์ เมื่อปีที่แล้วเธอยังถูกผู้ประท้วงปิดล้อมที่ภัตตาคารอาหารเม็กซิกันแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย

เธอกลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนล่าสุดที่ถอนตัวจากรัฐบาลทรัมป์ ทำให้เวลานี้เหลือคณะรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงอยู่เพียง 4 คน นอกจากนี้ ทรัมป์ ก็ยังสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมและประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอย่างถาวรไม่ได้

เบนนี ทอมป์สัน ส.ส.เดโมแครตซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎร ชี้ว่าการทำงานของ นีลเซน ที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิถือว่าเป็น “หายนะตั้งแต่ต้น” แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่เธอจะต้องกลายเป็นแพะรับบาปจาก “นโยบายที่แย่และทารุณโหดร้าย” ของทรัมป์

เมื่อปีที่แล้ว นีลเซน เผชิญแรงกดดันจากนักวิจารณ์ให้ถอนตัวออกมา หลังจาก ทรัมป์ เริ่มใช้นโยบาย “ความอดทนเป็นศูนย์” (Zero Tolerance) ซึ่งรวมถึงการจับเด็กผู้อพยพแยกออกจากพ่อแม่ โดยหวังข่มขู่ไม่ให้อีกหลายครอบครัวทิ้งบ้านมาแสวงหาชีวิตใหม่ในสหรัฐอเมริกา .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]