fbpx

จีนโต้คนวิจารณ์โครงการเส้นทางสายไหมใหม่ว่าอคติ

ปักกิ่ง 30 มี.ค.- นายหยาง เจี๋ยฉือ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศกลางในคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนยืนยันว่า จีนไม่เคยบังคับสร้างหนี้ให้แก่ประเทศที่เข้าร่วมโครงการเส้นทางสายไหมในศตวรรษที่ 21 (Belt and Road) ตามที่นักวิจารณ์อคติว่าไว้ 


นายหยาง อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและอดีตเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีของพรรคคอมมิวนิสต์วันนี้ว่า เขาสังเกตว่าบางประเทศเชื่อว่าโครงการนี้เป็นเครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์และมีแต่จะทำให้ประเทศที่เข้าร่วมติดกับดักหนี้สิน ความเชื่อนี้สะท้อนถึงอคติและความไม่เข้าใจโครงการอย่างแท้จริง เป็นความเข้าใจผิด ตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม และอคติ จีนได้ย้ำมาโดยตลอดว่าโครงการเส้นทางสายไหมในศตวรรษที่ 21 มีจุดประสงค์ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน เป็นโครงการเปิดกว้าง ให้ทุกประเทศมีส่วนร่วม และโปร่งใส ไม่ใช่เกมทางภูมิรัฐศาสตร์ และไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มเล็ก ๆ การคัดเลือกไปจนถึงการให้งบสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ในโครงการนี้ผ่านการประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบและเป็นไปตามหลักการเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน 

นายหยางระบุว่า สำหรับประเทศผู้เข้าร่วมที่มีปัญหาหนี้สิน หลักการของจีนคือช่วยแก้ปัญหาอย่างเหมาะสมด้วยการให้คำปรึกษาฉันมิตร ไม่เคยบีบหรือบังคับให้สร้างหนี้ ปัจจุบันไม่มีประเทศใดที่มีวิกฤตหนี้สิน ตรงกันข้ามหลายประเทศกลับสามารถหลุดพ้นจากกับดักการไร้การพัฒนาเสียด้วยซ้ำ จีนจะประชุมผู้นำโครงการครั้งที่สองที่กรุงปักกิ่งในปลายเดือนเมษายน จะมีผู้นำเกือบ 40 ประเทศเข้าร่วม 


รัฐบาลตะวันตกหลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐมองโครงการเส้นทางสายไหมในศตวรรษที่ 21 ว่าเป็นเพียงเครื่องมือของจีนในการแผ่อิทธิพลและบังคับให้ประเทศที่เข้าร่วมแบกรับหนี้ที่ไม่สร้างความยั่งยืนด้วยโครงการต่าง ๆ ที่ไม่โปร่งใส สหรัฐยังได้วิจารณ์อิตาลีที่ประกาศในเดือนนี้ว่าจะร่วมโครงการนี้เป็นประเทศแรกของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี 7 (G7).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553