กรุงเทพฯ 25 มี.ค.- เอเชียนิวส์เน็ตเวิร์ก หรือเอเอ็นเอ็น (ANN) ซึ่งเป็นการรวมตัวขององค์กรสื่อ 22 แห่งในเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ครอบคลุมประชากร 2,000 ล้านคนใน 20 ประเทศ ตั้งสมมติฐานการเมืองไทยหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งเมื่อวานนี้
นายค็อด ซาตรูซายาง บรรณาธิการบริหารเอเอ็นเอ็นระบุในบทความว่า การเลือกตั้งไทยเมื่อวานนี้มีผู้ออกใช้สิทธิจำนวนมากเพราะต้องการให้เสียงของตนมีความหมาย นายซาตรูซายางได้ตั้งสมมติฐานหลายอย่างที่น่าจะเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้หลังการเลือกตั้ง
พรรคเพื่อไทยได้คะแนน 376 เสียงขึ้นไป : สมมติฐานนี้มีความเป็นไปได้น้อย เพราะการที่พรรคเพื่อไทยพรรคเดียวจะได้ สส.376 คนจากทั้งหมด 500 คน เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก และระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ยิ่งทำให้เป็นไปไม่ได้ หากเกิดขึ้นจริงพรรคเพื่อไทยจะได้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีและตั้งรัฐบาล สิ่งที่อาจเกิดขึ้นตามมาคือรัฐบาลปัจจุบันยอมถอย และสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าคือศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ฐานทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและอาจยุบพรรคเพื่อไทยด้วย
พรรคเพื่อไทยและพันธมิตรได้คะแนน 250 เสียงแต่ไม่มากพอจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี : สมมติฐานนี้มีความเป็นไปได้ ซึ่งจะทำให้เกิดทางตันและเกิดการเมืองแบบไม่ชัดเจน สิ่งที่อาจตามมาคือพรรคเพื่อไทยและพันธมิตรครองเสียงข้างมากในสภา แต่นายกรัฐมนตรีคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือหากไม่มีฝ่ายใดมีเสียงมากพอที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาลปัจจุบันอาจจะไม่ให้เปิดสภาและบริหารประเทศไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ แต่สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นคือ พรรคเพื่อไทยสามารถจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์
พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งเพราะพรรคพลังประชารัฐและพันธมิตรได้เสียงมากพอ : สมมติฐานนี้ไม่ไกลจากความเป็นจริง ฝ่ายนี้ต้องได้ สส. 126 เสียงเพื่อเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี โดยอาจได้เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์บางคนที่แปรพักตร์มา เพราะหัวหน้าพรรคประกาศไว้แล้วว่าไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ หากสมมติฐานนี้เป็นจริงรัฐบาลเสียงข้างน้อยของ พล.อ.ประยุทธ์คงไม่สามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจได้เห็นการเลือกตั้งใหม่ในปีหน้าเป็นอย่างเร็วที่สุด อาจเห็นคนไม่พอใจออกมาชุมนุมตามท้องถนน และหากถึงจุดวิกฤตก็มีการพูดถึงความเป็นไปได้ที่ทหารอีกกลุ่มหนึ่งจะทำการรัฐประหารเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
รัฐสภาที่ไม่มีพรรคใดสามารถจัดตั้งรัฐบาล : สมมติฐานนี้จะเกิดขึ้นเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ทำตามที่ประกาศไว้ว่าจะไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยและไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคอนาคตใหม่ทำตามที่ประกาศไว้ว่าจะไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ รัฐสภาไทยชุดใหม่จะไม่มีพรรคใดที่สามารถเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลได้ สมมติฐานนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดแต่ก็เป็นไปได้ อีกทางหนึ่งศาลรัฐธรรมนูญอาจสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่หลังเลือกตั้ง หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งอาจแจกใบแดงจนจำนวน สส.ในสภาไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่จะเปิดสภาได้ สิ่งที่จะตามมาคือทหารจะบริหารประเทศต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้.-สำนักข่าวไทย