โบโกตา 29 ส.ค.- รัฐบาลโคลอมเบียและกลุ่มกบฏฟาร์กจะหยุดยิงยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมานานกว่า 50 ปี ตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายจะลงนามข้อตกลงสันติภาพปลายเดือนหน้า เพื่อให้ประชาชนลงมติรับรองในต้นเดือนตุลาคม
นายตีโมเลียน ฆีเมเนซ ผู้นำกองกำลังปฏิวัติแห่งโคลอมเบีย (ฟาร์ก) ซึ่งมีชื่อจริงว่า โรดริโก ลอนโดโน ประกาศต่อหน้าสื่อ มีคำสั่งให้สมาชิกทุกคนหยุดยิงอย่างเด็ดขาดและยุติความเป็นปรปักษ์กับรัฐ ตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงวันนี้ ตามเวลาในไทย ขณะที่ประธานาธิบดีฆวน มานูเอล ซานโตส ของโคลอมเบีย ทวีตตั้งแต่วันศุกร์ว่า การยุติความขัดแย้งเกิดขึ้นแล้ว หลังจากลงนามคำสั่งยุติปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มฟาร์ก ตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น
การหยุดยิงนี้เป็นผลจากการเจรจาสันติภาพในกรุงฮาวานาของคิวบา ที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 และได้ข้อยุติเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าจะหยุดยิงอย่างเด็ดขาดทั้ง 2 ฝ่าย ต่างจากเมื่อครั้งที่กลุ่มฟาร์กประกาศหยุดยิงแต่ฝ่ายเดียว เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายจะลงนามข้อตกลงสันติภาพฉบับเต็มราววันที่ 20-26 กันยายนนี้ ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในนครนิวยอร์กของสหรัฐ กรุงฮาวานาของคิวบา หรือกรุงโบโกตาของโคลอมเบีย ตามด้วยกระบวนการถอนกำลังพลใช้เวลานาน 6 เดือน สมาชิกกลุ่มฟาร์กราว 7,500 คน จะทยอยส่งมอบอาวุธภายใต้การสังเกตการณ์ของยูเอ็น แกนนำและตัวแทนสมาชิกจะประชุมเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 13-19 กันยายน โดยเชิญแขกผู้มีเกียรติและสื่อต่างชาติร่วมเป็นประจักษ์พยาน ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นกลุ่มทางการเมือง จากนั้นจะให้ชาวโคลอมเบียลงประชามติรับรองการหยุดยิงในวันที่ 2 ตุลาคม ศาลรัฐธรรมนูญมีคำชี้ขาดเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า การรับรองจะเป็นผลต้องได้เสียงอย่างน้อย 4.4 ล้านเสียง หรือร้อยละ 13 ของผู้มีสิทธิลงประชามติ
กลุ่มฟาร์ก ซึ่งกบดานอยู่ในป่า เคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี 2507 เคยอ้างเมื่อปี 2550 ว่ามีสมาชิกทั้งชายและหญิง รวม 18,000 คน ทำสงครามกองโจรกับรัฐบาล มีผู้ล้มตายราว 260,000 คน สูญหาย 45,000 คน ประชาชนพลัดพรากจากบ้านเรือน 6.9 ล้านคน วุฒิสภาประเมินว่า การปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพต้องใช้เงินประมาณ 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.07 ล้านล้านบาท) ขณะที่รัฐบาลชี้แจงว่า งบประมาณดังกล่าวจะมาจากภาครัฐ เอกชน และผู้บริจาคต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย