ปารีส 1 มี.ค.- องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ(ยูนิเซฟ)แถลงวันนี้ว่า มีเพียงไม่กี่ประเทศที่มีแผนรับมือโรคหัดในขณะที่พบการระบาดไปทั่วโลก รวมทั้งไทย และที่ฝรั่งเศสซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศร่ำรวยที่สุดในโลก
ยูนิเซฟรายงานว่า 98 ประเทศมีรายงานผู้ติดเชื้อโรคหัดมากขึ้นเมื่อปี 2561 เปรียบเทียบกับปี 2560 ซึ่งหน่วยงานยูเอ็นเตือนว่า สถานการณ์ความขัดแย้ง ไม่มีแผนรับมือ และการต่อต้านการรับวัคซีนเพราะขาดความรู้ที่ถูกต้องทางการแพทย์ มีส่วนทำให้ความพยายามกำจัดโรคหัดมาหลายสิบปีไม่เป็นผล ผู้อำนวยการยูนิเซฟกล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นสัญญาเตือนภัย ในขณะที่ปัจจุบันเรามีวัคซีนที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และราคาไม่แพงเพียงพอที่จะยับยั้งการระบาดและสามารถช่วยประชาชนได้เกือบล้านคนทุกปีตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จนทุกวันนี้โรคหัดระบาดหนักขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว เนื่องจากไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอซึ่งจะส่งผลต่อเด็กๆในอนาคต โรคหัดแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าวัณโรค และอีโบลา แต่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันได้ อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกรายงานว่า โรคหัดระบาดทั่วโลกมากขึ้นเกือบร้อยละ 50 ในปี 2561 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 136,000 คน ยูเครน ฟิลิปปินส์ และบราซิลมีรายงานผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายปี แม้แต่ในฝรั่งเศส ประเทศที่จัดว่าร่ำรวยก็พบผู้ติดเชื้อโรคหัดเพิ่มขึ้นเช่นกัน ยูนิเซฟพบว่า 10 ประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อโรคหัดอันดับต้นๆ ได้แก่ เยเมน เวเนซุเอลา เซอร์เบีย มาดากัสการ์ ซูดาน และไทย .-สำนักข่าวไทย