ตูลูส 14 ก.พ.- แอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินของยุโรปประกาศแผนยุติการผลิตเครื่องบินซูเปอร์จัมโบเอ380 (A380) ล้มเลิกความฝันที่จะครองน่านฟ้าด้วยเครื่องบินแห่งศตวรรที่ 21 เนื่องจากยอดขายซบเซา
A380 เป็นเครื่องบินใหญ่ที่สุดในโลก มีสองชั้น รองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 544 คน ออกแบบมาเพื่อท้าทายโบอิง 747 เครื่องบินระดับตำนานของบริษัทอเมริกัน แต่ไปไม่ถึงฝั่งฝันเมื่อสายการบินต่าง ๆ หันมานิยมเครื่องบินรุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กลงและปราดเปรียวมากขึ้น แอร์บัสออกแถลงการณ์วันนี้ว่า จะยุติการผลิต A380 และจะส่งมอบลำสุดท้ายในปี 2564 บริษัทจะคุยกับสหภาพแรงงานในอีกสองสามสัปดาห์เรื่องตำแหน่งงาน 3,000 ตำแหน่งที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการยุติการผลิต A380
แอร์บัสเผยด้วยว่า เอมิเรตส์ สายการบินของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดได้ลดคำสั่งซื้อ A380 แล้วเปลี่ยนไปสั่งซื้อ A350 และ A330 รุ่นใหม่รวมทั้งหมด 70 ลำแทน ขณะที่เอมิเรตส์ซึ่งมี A380 อยู่ 100 ลำ แถลงว่า ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนเครื่องบินรุ่นนี้มาตั้งแต่เปิดตัว จึงรู้สึกเสียใจที่แอร์บัสจะยุติการผลิตและเสียใจที่สายการบินต้องยกเลิกคำสั่งซื้อ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี A380 จะยังคงเป็นเสาหลักของฝูงบินเอมิเรตส์ไปจนถึงคริสต์ทศวรรษหลังปี 2030
A380 บินเที่ยวปฐมฤกษ์ในปี 2548 เป็นก้าวสำคัญของแอร์บัสที่พยายามจะขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันกับโบอิง แต่ยอดขายเครื่องบินแบบสี่เครื่องยนต์นี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการพัฒนาเครื่องบินแบบสองเครื่องยนต์ที่มีขนาดเบากว่าและประหยัดน้ำมันมากกว่า เช่น โบอิง 787 โบอิง 777 หรือ A350 ของแอร์บัสเอง.- สำนักข่าวไทย