ธนาคารกลางตุรกีขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 6.25 ดันลีราแข็งค่าทันที

อังการา 13 ก.ย.- ธนาคารกลางตุรกีขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 6.25 เป็นร้อยละ 24 ส่งผลให้เงินลีราแข็งค่าขึ้นทันที 


การตัดสินใจของธนาคารกลางตุรกีคลายความวิตกของนักลงทุนเรื่องประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอานมีอิทธิพลต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลาง เพราะเขาเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยมาโดยตลอดด้วยการอ้างว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูง โดยเมื่อเดือนสิงหาคมสูงถึงร้อยละ 17.9 สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2546 รอยเตอร์สำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 11 คนเห็นตรงกันว่า ธนาคารกลางตุรกีจะเข้มงวดนโยบายการเงิน และน่าจะขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่ร้อยละ 2.25-7.25 เพราะต้องสร้างสมดุลระหว่างการพยุงค่าเงินกับการประคองการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เสี่ยงชะลอตัว 

การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทำให้เงินตุรกีแข็งค่าขึ้นจาก 6.4176 ลีราต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็น 6.01 ลีราต่อดอลลาร์สหรัฐทันที เงินลีราเทียบกับกับดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแล้วร้อยละ 40 นับจากต้นปี เพราะนักลงทุนกังวลว่าประธานาธิบดีมีอิทธิพลต่อนโยบายการเงินและการที่ตุรกีมีข้อพิพาทการทูตกับสหรัฐเรื่องควบคุมตัวบาทหลวงอเมริกันข้อหาพัวพันก่อการร้าย 


ด้านประธานาธิบดีแอร์โดอานกล่าวต่อที่ประชุมสมาพันธ์ผู้ค้าในวันเดียวกันว่า ต่อไปนี้การจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ การทำสัญญาเช่าและธุรกรรมเช่าทรัพย์จะต้องเป็นสกุลเงินลีราเท่านั้น คนในตุรกีทุกคนไม่ควรใช้สกุลเงินต่างประเทศ ยกเว้นผู้นำเข้าและผู้ส่งออก นักเศรษฐศาสตร์และผู้ค้าไม่คิดว่ามาตรการนี้จะช่วยพยุงเงินลีราได้ในระยะยาว แต่กลับจะเป็นอุปสรรคต่อการคาดการณ์ทางการค้าและเพิ่มภาระให้แก่ธุรกิจที่มีหนี้สินเป็นสกุลเงินต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ตึกสตง.ถล่ม

กทม. เร่งเคลียร์ซากตึก สตง. เหลือสูง 12 เมตร

กทม. เร่งเคลียร์ซากตึก สตง. เหลือสูง 12 เมตร เดินหน้าค้นหาผู้สูญหายต่อเนื่อง พร้อมเปิด Airbnb ให้ประชาชนได้รับผลกระทบเข้าพักชั่วคราว

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

อากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่ ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อนโดยทั่วไป และร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง