ซิดนีย์ 14 ธ.ค.- คอมมอนเวลธ์แบงก์ ธนาคารใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียยอมรับว่า ได้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินกว่า 50,000 ครั้ง เพราะความบกพร่องทางระบบ แต่ไม่ยอมรับข้อกล่าวหาอื่น ๆ
คอมมอนเวลธ์แบงก์แถลงเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ยอมรับว่า ละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินกรณีแจ้งรายงานการทำธุกรรมทั้งหมด 53,506 ครั้งล่าช้า อันเป็นผลจากความบกพร่องทางระบบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ศูนย์วิเคราะห์และรายงานธุรกรรมออสเตรเลีย (ออสแทรก) ยื่นฟ้องคดีแพ่งกับคอมมอนเวลธ์แบงก์เมื่อเดือนสิงหาคมว่า ทำธุรกรรมจำนวนมากที่ละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินอย่างร้ายแรงและเป็นระบบ กรณีล่าช้าในการแจ้งรายงานการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มตั้งแต่ 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียขึ้นไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555-กันยายน 2558 รวมมูลค่าทั้งหมด 624.7 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 15,567 ล้านบาท) หากถูกตัดสินให้แพ้คดี คอมมอนเวลธ์แบงก์อาจถูกปรับเป็นเงินจำนวนมาก
ส่วนเรื่องที่หน่วยงานอื่น ๆ เปิดการสอบสวนวัฒนธรรมองค์กรและวิธีการแก้ปัญหาของคอมมอนเวลธ์แบงก์ รวมถึงการยื่นฟ้องในนามกลุ่มบุคคลรวมกว่าร้อยข้อกล่าวหานั้น คอมมอนเวลธ์แบงก์ยืนยันว่าจะต่อสู้แก้ต่างข้อกล่าวหาเหล่านี้ กรณีของคอมมอนเวลธ์แบงก์จุดกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียเปิดการสอบสวนธุรกิจธนาคารอย่างละเอียดเพราะเกิดเรื่องอื้อฉาวหลายครั้งเรื่องการให้คำแนะนำทางการเงิน การประกันชีวิต และการฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย.- สำนักข่าวไทย