โตเกียว 25 ต.ค. – นักวิชาการด้านการเมืองญี่ปุ่นกล่าวแสดงความเห็นว่า บรรดาผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในญี่ปุ่น จะปิดฉากการครองเสียงข้างมากของพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี ในรัฐสภา ที่ดำเนินมาเป็นเวลามากว่า 1 ทศวรรษ ในการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคมนี้
เจฟฟรีย์ เจ ฮอลล์ อาจารย์และผู้เชี่ยวชาญ้านการเมืองญี่ปุ่น กล่าวว่า การที่ประชาชนไม่พอใจเรื่องกรณีอื้อฉาวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินทุนสนับสนุนทางการเมืองและการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีความสัมพันธ์กับ “โบสถ์แห่งความสามัคคี” (Unification Church) ที่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากมองว่าเป็นลัทธิความเชื่อหนึ่ง ส่งผลในทางลบต่อพรรคแอลดีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่น ฮอลล์ กล่าวว่า พรรคแอลดีพี ไม่ได้ดำเนินการอะไรอย่างจริงจังในการแก้ไขกรณีอื้อฉาวต่างๆ ที่เกิดขึ้น พรรคแอลดีพีสอบสวนตนเองและลงโทษเบาๆ กับสมาชิกของตนเอง
พรรคแอลดีพี ซึ่งเป็นพรรคแนวอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ เป็นรัฐบาลบริหารประเทศเกือบจะโดยตลอดตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา และครองเสียงข้างมากในรัฐสภามาตั้งแต่ปี 2012 โดยเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับพรรคโคเม พรรคเล็กร่วมรัฐบาลเพียงหนึ่งเดียว แต่ผลการสำรวจความเห็นประชาชนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยหนังสือพิมพ์อาซาฮี พบว่าพรรคแอลดีพีจะสูญเสียที่นั่งในรัฐสภาได้มากถึง 50 ที่นั่ง จากจำนวนเก้าอี้ที่มีอยู่ 247 ที่นั่งในสภาล่าง ในขณะที่พรรคโคเม จะได้ที่นั่งน้อยลงเหลือต่ำกว่า 30 ที่นั่ง ทำให้ทั้งสองพรรคมีเก้าอี้รวมกันแล้วน้อยกว่า 233 ที่นั่ง ที่ต้องการเพื่อครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
ฮอลล์ กล่าวว่า นายอิชิบะ จะมีอำนาจน้อยลง พรรคแอลดีพีของเขาก็จะมีอำนาจลดลงในการผลักดันนโยบายต่างๆ เพราะการนำพรรคอื่นเข้าร่วมรัฐบาลเพิ่มเติมจะทำให้พรรคแอลดีพีต้องยอมประณีประนอมกับพรรคอื่นๆ.-813.-สำนักข่าวไทย