อพยพวาฬจากยูเครนไปสเปน หนีภัยสงคราม

21 มิ.ย. – อพยพวาฬเบลูกา เพื่อหนีภัยจากสงครามในยูเครนไปยังสเปน เป็นปฏิบัติการช่วยชีวิตข้ามประเทศที่มีระยะทางไกลและมีความเสี่ยงสูงมาก


ไม่ใช่เฉพาะคนเท่านั้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม แต่สัตว์ต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย เช่น วาฬเบลูกา 2 ตัว ที่เคยจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในเมืองคาร์อคีฟของยูเครน ล่าสุดต้องอพยพไปอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอเชียโนกราฟฟิก ในเมืองบาเลนเซีย ทางตะวันออกของสเปน วาฬดังกล่าวเป็นวาฬตัวผู้ อายุ 15 ปี ชื่อว่า พลอมบีร์ ส่วนวาฬตัวเมีย อายุ 14 ปี มีชื่อว่า มิรันดา ทั้งคู่เดินทางมาถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในสเปน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากต้องระหกระเหินกับการเดินทางไกลหลายต่อ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย

การอพยพต้องนำวาฬใส่ลงในกระบะไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งปูพื้นด้วยแผ่นพลาสติกหนาเพื่อกันน้ำรั่วซึม จากนั้นนำวาฬขึ้นรถบรรทุกเดินทางไปยังเมืองท่าโอเดสซา ซึ่งในช่วงนี้ต้องใช้เวลาเดินทางนานถึง 12 ชั่วโมง เมื่อมาถึงมีการตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยก่อนจะข้ามพรมแดนเข้าไปยังมอลโดวา เพื่อนำวาฬไปขึ้นเครื่องบินที่กรุงคิชิเนฟ เดินทางต่อไปยังเมืองบาเลนเซียของสเปน ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางอีก 5 ชั่วโมง


การนำกล่องใส่วาฬขึ้นรถบรรทุกหรือเครื่องบินมีความเสี่ยงว่าอาจจะเกิดน้ำรั่ว ทำให้วาฬตายได้ หรืออาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเครื่องบินได้ เพราะในกล่องใส่วาฬมีน้ำอยู่ราว 4-5 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งไม่ใช่ปริมาณน้อยๆ

อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอเชียโนกราฟฟิก บอกว่าสภาพของวาฬทั้งคู่เมื่อเดินทางมาถึงถือว่าดีกว่าที่คาดเอาไว้ แม้ว่าจะดูอ่อนเพลียไปบ้าง แต่ถ้าหากยังปล่อยไว้ที่เมืองคาร์คิฟ เชื่อว่าโอกาสที่พวกมันจะรอดชีวิตนั้นแทบจะไม่มี เพราะพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในเมืองคาร์คิฟอยู่หางจากจุดที่เป็นเป้าโจมตีของกองทัพรัสเซียเพียง 800 เมตรเท่านั้น เสียงระเบิดและแรงสั่นสะเทือนจะทำให้วาฬเกิดความเครียดอย่างรุนแรง

นอกจากนี้เมืองคาร์คิฟยังมีปัญหาไฟฟ้าดับ ทำให้วาฬทั้งคู่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิ 28 องศาเซลเซียส ถือว่าสูงเกินไปสำหรับสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดบริเวณขั้วโลก ขณะนี้ทั้งพลอมบีร์ และมิรันดา ถือว่าปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะพลอมบีร์ที่เริ่มกินอาหารได้บ้างแล้ว แต่มิรันดายังไม่ยอมกินอาหาร สำหรับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอเชียโนกราฟฟิกแห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นเพียงแห่งเดียวที่มีการจัดแสดงวาฬเบลูกา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]