สปสช. ปรับแนวทางจ่ายเงินดูแลผู้ติดเชื้อโควิดสิทธิบัตรทองที่บ้าน-ชุมชน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.-สปสช. ปรับแนวทางการจ่ายชดเชยสนับสนุนการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 สิทธิบัตรทองที่บ้าน-ชุมชน (Home-Community Isolation) เหมาจ่ายให้หน่วยบริการทันที 3,000 บาทต่อราย โดยจะโอนทุกสัปดาห์ เพื่อดูแลผู้ป่วย หากมีส่วนเกินสามารถเบิกชดเชยได้อีกครั้ง


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช.ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกแห่ง เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2564 เพื่อประกาศปรับวิธีการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 กรณีดูแลใน Home Isolation และ Community Isolation ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 สิทธิบัตรทองที่บ้านหรือที่ชุมชน

สำหรับแนวทางการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุข กรณีดูแลใน Home Isolation และ Community Isolation ซึ่ง สปสช.ได้มีการปรับเพิ่มเติม คือ เมื่อหน่วยบริการรับดูแลผู้ติดเชื้อแรกรับ ให้ทำการพิสูจน์การเข้ารับบริการโดยการทำ Authentication ด้วยบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด หรือตามแนวทางที่ สปสช.กำหนด


ทั้งนี้ หน่วยบริการจะได้รับการจ่ายชดเชยงวดแรก แบบเหมาจ่ายในอัตรา 3,000 บาทต่อราย ซึ่งหน่วยบริการจะได้รับการโอนเงินทุกสัปดาห์ และภายหลังให้บริการผู้ติดเชื้อโควิด-19 จนสิ้นสุดการดูแลแล้ว หากค่าใช้จ่ายที่ประมวลผลได้มากกว่าจำนวนเงินที่จ่ายแบบเหมาจ่ายไปแล้ว หน่วยบริการจะได้รับการจ่ายชดเชยเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายชดเชยที่กำหนด

“วัตถุประสงค์ของแนวทางนี้ เพื่อให้หน่วยบริการสามารถมีงบประมาณเพื่อนำไปใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ก่อน ซึ่งจะเป็นการจูงใจให้หน่วยบริการเข้าร่วมระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านและที่ชุมชนมากขึ้น ตามนโยบายสนับสนุนการทำ Home Isolation และ Community Isolation ของกระทรวงสาธารณสุข” นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ในส่วนของการบันทึกและส่งข้อมูลขอรับค่าใช้จ่าย ให้หน่วยบริการดำเนินการผ่านโปรแกรม e-Claim ตามรายการที่ให้บริการจริง โดยสำหรับแนวทางการขอ Authentication code สามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ www.eclaim.nhso.go.th และหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-554-0505.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเยาวชน พลังสำคัญของชาติ

นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ มีสติ และรู้คุณค่าในตัวเอง มั่นใจเป็นพลังสำคัญให้กับประเทศชาติ ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านการศึกษา และการประกอบอาชีพ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน