แนะ 7 วิธีจัดการศพโควิดให้ปลอดภัย

สธ. 6 พ.ค.-กรมอนามัย แนะ 7 วิธีปฏิบัติเพื่อจัดการศพที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ให้ปลอดภัย ตั้งแต่ในโรงพยาบาล จนถึงการจัดพิธีศพ พร้อมเน้นย้ำผู้ปฏิบัติงานจัดพิธีศพทำความสะอาดวัสดุอุปกรณ์และสิ่งของเครื่องใช้ ตามมาตรการของ ก.สาธารณสุข ส่วนผู้เข้าร่วมงานต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง เมื่อกลับถึงบ้านให้อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วงเวลานี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรายวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดการผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สามารถดำเนินการได้ทันที แต่ต้องปลอดภัย โดยกรมอนามัยมีคำแนะนำสำหรับการจัดการศพให้ปลอดภัย 7 ข้อหลัก

ดังนี้



1) เมื่อผู้ป่วยเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเก็บศพ โดยใส่ชุดป้องกัน PPE
2) บรรจุศพลงในถุง 2 ชั้น ที่ผ่านการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแล้ว
3) งดการอาบน้ำศพ รดน้ำศพ และฉีดยาศพ
4) ห้ามเปิดถุงบรรจุศพ และควรหลีกเลี่ยงการเปิดหีบศพ โดยปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน ทั้งศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม และศาสนาอื่น ๆ


5) ควรจัดพิธีทางศาสนาโดยการเผาศพหรือฝังศพทั้งถุง ในพื้นที่ที่จัดเตรียมเฉพาะ โดยไม่มีการเปิดถุงบรรจุศพอย่างเด็ดขาด ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 24 ชั่วโมง หรือ 1 วัน และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
6) ในการเผาศพนั้น หากเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ให้ใช้เตาเผาศพเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเผากลางแจ้ง และต้องใช้เตาเผาศพปลอดมลพิษแบบสองห้องเผา โดยต้องควบคุมอุณหภูมิในห้องเผาศพไม่น้อยกว่า 760 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิในห้องควันไม่น้อยกว่า 1,000 องศาเซลเซียส ตลอดระยะเวลาการเผาศพ ในระหว่างการเผาศพ ไม่ควรเปิดประตูเตาเผาศพ หลีกเลี่ยงการเขี่ยศพหรือพลิกศพ
และ 7) เมื่อเผาศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถือได้ว่าเชื้อโรคถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว จากนั้นให้ดำเนินการเก็บกระดูก เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

“ทั้งนี้ การจัดพิธีศพนั้น ขอให้ทุกศาสนาปฏิบัติตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข โดยให้เตรียมความพร้อมและทำความสะอาดสถานที่จัดงาน วัสดุอุปกรณ์ และสิ่งของเครื่องใช้ จัดให้มีระบบคัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิผู้มาร่วมงาน บริการจุดแอลกอฮอล์และจุดล้างมือด้วยสบู่และน้ำ บริเวณทางเข้า-ออก และจุดที่มีการสัมผัสร่วมกันเป็นจำนวนมาก จัดที่นั่งให้มีระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร ส่วนการปฏิบัติตนของผู้ที่เข้าร่วมพิธีศพนั้น ต้องลงทะเบียนเข้างานด้วยสมุดลงทะเบียน หรือแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ตามที่ผู้จัดงานเตรียมไว้ พร้อมประเมินตนเองด้วยแอปพลิเคชันที่ทางราชการกำหนด หรือเลือกประเมินผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” และให้สังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไข้ หรือวัดอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับมีอาการของระบบทางเดินหายใจ ตาแดง ผื่นแดง และถ่ายเหลว ให้งดเข้าร่วมพิธี แนะนำไปพบแพทย์ ส่วนการเข้าร่วมงานศพ ให้สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ทั้งก่อนและหลังเข้าร่วมพิธี หลังสัมผัสสิ่งสกปรก เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่จับกลุ่มสนทนา และใช้เวลาในการร่วมพิธีให้น้อยที่สุด เมื่อกลับถึงบ้านให้อาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าทันที” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ