กรุงเทพฯ 4 มี.ค.-แม่ของ “แอมมี่” ผู้ต้องหาคดีวางเพลิงเผาทรัพย์สินหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม เตรียมยื่นประกันตัวครั้งที่ 2 เพิ่มหลักทรัพย์เป็น 5 แสนบาท ขณะที่สำนักข่าวไทยได้ภาพจากกล้องวงจรปิดนาทีเผาหน้าเรือนจำ
สำนักข่าวไทย ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด 2 คลิปจากแหล่งข่าว โดยคลิปแรกเป็นเหตุการณ์กล้องที่อยู่ห่างจุดเกิดเหตุหน้าเรือนจำกลางคลองเปรมเล็กน้อย พบเห็นกลุ่มบุคคลอย่างน้อย 3 คน ยืนเกาะกลุ่มกันคล้ายกับมีการพูดคุยบางอย่าง ซึ่งมีหนึ่งคนยืนถ่ายภาพ และพบเห็นอีกคนมีลักษณะการแต่งกายคล้าย “แอมมี่ เดอะ บอตทอมบลูส์” โดยเฉพาะการใส่หมวกสีขาว ในเวลาต่อมาไม่นานปรากฏกลุ่มควันและเปลวไฟ ที่มุมซ้ายบนของจอภาพ
อีกคลิปเป็นเหตุการณ์ในระยะใกล้ มุมซ้ายของจอจะเห็นความเคลื่อนไหวของคนบนนั่งร้าน จากนั้นปรากฏภาพเปลวไฟลุกโชนขึ้นมาอย่างรุนแรง ถ้าดูจากเวลาในกล้องวงจรปิดจะพบว่า ช่วงเวลาที่เกิดไฟไหม้ คือ เวลา 02.04 น. จากนั้นผ่านไปประมาณ 5 นาที จึงมีผู้พบเห็นเหตุการณ์ ก่อนจะมีการควบคุมเพลิงให้อยู่ในความสงบ โดยเวลาที่เพลิงสงบจากที่สังเกตในกล้องวงจรปิด คือ เวลา 02.21 น. ภาพหลักฐานคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่สำนักข่าวไทยได้รับมา ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจจะใช้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุรวมถึงขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ
ส่วนความเคลื่อนไหวของ “แอมมี่” หรือ นายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หลังถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีข้อหาวางเพลิง, มาตรา 112 และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ผ่าน Facebook แฟนเพจของตัวเองชื่อว่า “The Bottom Blues” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.2 ล้านคน ยอมรับว่าการก่อเหตุเผาครั้งนี้เป็นฝีมือของตนเอง และขอรับผิดชอบไว้แต่เพียงผู้เดียว โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเคลื่อนไหวใดๆ พร้อมอ้างว่าเหตุผล คือ ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนนักเคลื่อนไหวที่ถูกจับกุมตัว และยอมรับว่าเป็นความคิดที่โง่เขาทำให้ตกอยู่ในอันตราย
สำหรับ “แอมมี่ เดอะ บอตทอมบลูส์” ถูกจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วานนี้ (3 มี.ค.) ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ขอใช้สิทธิ์ผู้ป่วย เพื่อเข้ารักษาพยาบาลเพราะมีอาการอักเสบที่ไหล่ซ้าย และ เชิงกรานซ้าย จากการตกจากที่สูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงกับจุดที่ถูกจับ ก่อนนำตัวส่งมาที่โรงพยาบาลตำรวจ
โดยเมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เดินทางเข้าสอบปากคำผู้ต้องหาที่โรงพยาบาล โดยไม่ได้เบิกตัวมาที่ สน.ประชาชื่น จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลอาญาผ่านระบบคอนเฟอร์เรนซ์ โดยไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปที่ศาล เพราะมีอาการบาดเจ็บ ซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขังเป็นเวลา 12 วัน พร้อมอนุญาตให้พนักงานสอบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่โรงพยาบาลตำรวจก่อน ตามคำร้องระหว่างที่รักษาอาการบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็น (3 มี.ค.) ครอบครัวผู้ต้องหาได้เดินทางมายื่นหลักทรัพย์ 90,000 บาท เพื่อขอปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราว แต่ศาลพิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี ประกอบกับคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง รวมถึงเลยเวลายื่นประกันตัวแล้ว จึงยกคำร้อง
โดยเช้าวันนี้ (4 มี.ค.) พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหา พร้อมคำร้องและความเห็นแพทย์ที่ระบุผลการรักษาว่าไม่เจ็บป่วยรุนแรงและไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลไปให้ศาลพิจารณาออกหมายขัง ซึ่งหากญาติไม่ยื่นประกันตัว เจ้าหน้าที่จะส่งไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ล่าสุดมีรายงานว่าวันนี้ (4 มี.ค.) มารดาของผู้ต้องหาจะยื่นประกันตัวบุตรชายเป็นครั้งที่ 2 พร้อมเพิ่มหลักทรัพย์เป็นเงินสด 500,000 บาทต่อไป.- สำนักข่าวไทย