เมียนมา 1 มี.ค.-กองกำลังความมั่นคงเมียนมา ยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารในหลายเมือง โดยวานนี้วันเดียวมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน ถูกคุมตัวแล้วกว่า 850 คน
เมื่อวานนี้เกิดเหตุการณ์นองเลือดในเมียนมาครั้งใหญ่สุด นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ. เมื่อตำรวจปราบจลาจลใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และกระสุนจริงยิงสลายม็อบต้านรัฐประหารที่มีการชุมนุมประท้วงกันในเมืองใหญ่หลายเมืองของประเทศ ทั้งนครย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเมืองทวาย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 18 คน ภายในวันเดียว บาดเจ็บอีกกว่า 30 คน โดยกองทัพเมียนมาส่งกำลังทหารเข้ามาเสริมกำลังตำรวจเพื่อปราบปรามผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารมาตั้งแต่วันเสาร์ มีการใช้กระสุนจริงในหลายพื้นที่ของเมืองย่างกุ้ง หลังจากก่อนหน้านั้น ตำรวจปราบจลาจลได้ใช้ระเบิดแสง ยิงแก๊สน้ำตา และกระสุนยาง เพื่อพยายามสลายฝูงชนที่รวมตัวชุมนุมต่อต้านรัฐบาลทหารอย่างสงบด้วยการใช้มาตรการอารยะขัดขืน ซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงแม้แต่น้อย
รอยเตอร์ รายงานว่า ตำรวจเมียนมาได้ใช้กระสุนจริงยิงใส่ม็อบที่เมืองทวาย ทางภาคใต้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บหลายราย นอกจากนั้นยังมีผู้ชุมนุมถูกตำรวจยิงด้วยกระสุนจริงเสียชีวิตที่มัณฑะเลย์อีก 2 คน และก่อนหน้านี้มีผู้เสียชีวิตในย่างกุ้ง 4 คน รวมถึงยังมีผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิตในเมืองพะโค เมืองมะริต และเมืองปะโคะกูด้วย ขณะที่มีผู้ถูกควบคุมตัวทั่วประเทศแล้วกว่า 850 คน
ด้านสหประชาชาติออกแถลงการณ์ว่าชาวเมียนมามีสิทธิชุมนุมประท้วงอย่างสงบ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย การถูกปราบปรามด้วยการใช้ความรุนแรง จึงไม่สามารถยอมรับได้ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน.-สำนักข่าวไทย