วางตู้คอนเทนเนอร์สกัดม็อบบุกกรมทหารราบที่ 1

กทม. 29 พ.ย. – รอง ผบช.น. เผยวันนี้มีการจัดชุมนุมรวม 3 จุดใหญ่ คือ อิมพีเรียล ลาดพร้าว, กรมทหารราบที่ 1 วิภาวดี และกรมทหารราบที่ 11 บางเขน ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งวางตู้คอนเทนเนอร์และรั้วลวดหนาม มั่นใจมาตรการรักษาความปลอดภัยในทุกพื้นที่


ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์มาวางกั้นถนนวิภาวดีรังสิตช่องทางคู่ขนาน ตั้งแต่บริเวณก่อนถึงทางเข้ากรมทหารราบที่ 1 กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ฯ หลังแกนนำกลุ่มราษฎรนัดหมายชุมนุมกันในเวลาประมาณ 15.00 น. วันนี้ ซึ่งตู้คอนเทนเนอร์นี้เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายมาจากพื้นที่โดยรอบเขตดุสิตที่เคยใช้ปิดกั้นถนนก่อนหน้านี้ โดยใช้รถบรรทุกลำเลียงตู้คอนเทนเนอร์มาประมาณ 50 คัน แต่ละคันบรรทุก 2 ตู้คอนเทนเนอร์ รวมแล้วกว่า 100 ตู้ และทยอยนำลงปิดกั้นถนนวิภาวดีรังสิตช่องทางคู่ขนาน ตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น.ที่ผ่านมา

นอกจากตู้คอนเทนเนอร์แล้ว ยังมีลวดหนามและแท่งแบริเออร์คอนกรีตอีกจำนวนหนึ่ง นำมาวางกั้นพร้อมกับตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่ และยังมีตู้คอนเทนเนอร์อีกส่วนหนึ่งที่นำเข้าไปวางภายในกรมทหาราบที่ 1


สำหรับการจราจรถนนวิภาวดีรังสิตช่องทางคู่ขนาน จะปิดการจราจรตั้งแต่หน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึก จนถึงบริเวณสนามกีฬากองทัพบก โดยจะให้รถใช้ช่องทางด่วน หรือขึ้นทางยกระดับโทลล์เวย์ได้ตามปกติ

ส่วนบรรยากาศเช้านี้ หลังมีการวางตู้คอนเทนเนอร์กว่า 100 ตู้ และรั้วลวดหนามหลายชั้นบริเวณช่องคู่ขนานด้านใน 2 ช่อง ถนนวิภาวดีรังสิต หน้า กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ตั้งแต่แนวรั้วของกรมที่ติดกับโรงพยายาลทหารผ่านศึก ถึงปั๊ม ปตท. รวมระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้ตำรวจจราจรต้องปิดการจราจรช่องคู่ขนาน ตั้งแต่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกไปจนถึงปั๊มน้ำมันเช่นกัน และจัดกำลังตำรวจมาคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณดังกล่าว ประชาชนสามารถใช้ได้เพียงช่องทางด่วนเท่านั้น ทำให้ปริมาณรถบนถนนวิภาวดีขาออก ค่อยข้างหนาแน่น

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันความพร้อมในการดูแลการชุมนุม เบื้องต้นจากรายงานทางการข่าวพบว่าวันนี้จะมีการชุมนุมทางการเมืองด้วยกันทั้งหมด 3 พื้นที่ คือกรมทหารราบที่ 1 กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ฯ ถนนวิภาวดีรังสิต, หน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว และล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะเปลี่ยนแปลงไปชุมนุมที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ บางเขน โดยตำรวจมั่นใจในมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในทุกพื้นที่ มีการจัดเตรียมกำลังตำรวจและอุปกรณ์เครื่องกีดขวางป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกสถานที่สำคัญไว้พร้อมหมด นอกจากนี้ยังจัดเตรียมความพร้อมอุปกรณ์รถยนต์ควบคุมฝูงชน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการและแผนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังไม่เป็นกังวลในเรื่องของมือที่สาม ฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ความรุนแรงขึ้น โดยตำรวจมีการสืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่สำคัญของหน่วยราชการทหารจะมีเจ้าหน้าที่ทหารช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสริมกำลังของตำรวจอีกชั้นหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง