นายกฯ สั่งทบทวนคำสั่งปิดสื่อฯ

ทำเนียบฯ 20 ต.ค.- นายกฯ สั่งทบทวนคำสั่งปิดสื่อฯ แต่หากสื่อยุยง ปลุกปั่น สร้างความแตกแยก จำเป็นต้องทำตามกฎหมาย ขอประชาชนป้องกันการกระทำที่มุ่งร้ายต่อประเทศ ย้ำอยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า มีเรื่องอยากที่จะสื่อสารและชี้แจงกับสื่อมวลชนโดยตรง รวมทั้งส่งผ่านไปยังสื่อออนไลท์ทุกประเภท หลังมีเอกสารคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เรื่องการตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการของสื่อ ที่มีเนื้อหาสาระกระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประเทศ ซึ่งสื่อมวลชนถือเป็นภาคส่วนสำคัญของสังคมไทยและเป็นพลังในการสร้างความชอบธรรม สร้างสรรค์ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับประเทศ บทบาทของสื่อที่ทำหน้าที่อย่างมีสิทธิเสรีภาพและความเป็นกลาง สร้างคุณประโยชน์มากมายต่อประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ประเทศชาติในการเฝ้าระวัง ตรวจสอบสิ่งต่าง ๆในสังคมและการถ่วงดุลอำนาจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ได้สั่งการและมอบแนวทางให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นผู้ตัดสินใจออกคำสั่งในการดำเนินการดังกล่าว โดยให้ทบทวนคำสั่งระงับการออกอากาศต่าง ๆ และให้พิจารณาคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ยกเว้นบางกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนและยุยงปลุกปั่นมาตลอดเวลา หรือละเมิดสิทธิของผู้อื่น ก็ให้เจ้าหน้าที่ยึดหลักการตามกฎหมายและให้ดำเนินการเฉพาะเป็นเรื่อง ๆ ไป


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนบางสื่อจำเป็นที่จะต้องปิดตามคำสั่งก็ต้องดำเนินการไป ยืนยันไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิของใครทั้งสิ้น ซึ่งหน้าที่ของตนและทุกคนคือต้องช่วยกันป้องกันและขจัดการกระทำที่มีเจตนาร้ายต่อประเทศ ความพยายามที่จะยุยงปลุกปั่น สร้างความวุ่นวาย ความแตกแยกในประเทศนั่นคือสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันไม่ให้เกิดขึ้น พร้อมขอความร่วมมือของประชาชนทุกคนให้ระมัดระวังไม่ให้ละเมิดสิทธิผู้อื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงบทเพลง “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” ที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้เปิดไว้ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมาแถลง ว่า ทุกคนได้ฟังเพลงแล้วมีความรู้สึกอย่างไรขึ้นบ้าง เราลูกหลานไทย คนไทย อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน และหน้าที่รัฐบาล ตนบังคับใครไม่ได้ เป็นเรื่องจิตใจของทุก ๆ คน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง