ครบเดือนเหตุแผ่นดินไหว “ดีเอสไอ” เปิดตู้คัดแยกเอกสารก่อสร้างอาคาร สตง.

กรุงเทพฯ 28 เม.ย. – “ดีเอสไอ” เปิดตู้คอนเทนเนอร์ 24 ตู้ คัดแยกเอกสารการก่อสร้างอาคาร สตง. ใช้ประกอบสำนวนคดี เตรียมเรียกสอบ 40 วิศวกร วันละ 10 คน เริ่มพรุ่งนี้


วันนี้ (28 เม.ย.) ดีเอสไอ พร้อมด้วย กรมโยธาธิการและผังเมือง, ตำรวจสน.บางซื่อ, เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน, ผู้แทนจากกิจการร่วมค้า PKW และผู้แทนบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ร่วมประชุมที่กองอำนวยการร่วม ก่อนเข้าเปิดตู้คอนเทนเนอร์ที่ดีเอสไอ อายัดไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งหมด 24 ตู้ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นที่ตั้งสำนักงานชั่วคราว และภายในมีการเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร ที่ดีเอสไอจะต้องทำการตรวจสอบเพื่อนำไปใช้ในการประกอบสำนวนคดีนอมินี และคดีฮั้วประมูล

โดยการเข้าตรวจสอบจะแบ่งชุดปฏิบัติการเป็น 4 ชุด แต่ละชุดจะประกอบไปด้วยตำรวจ กรมโยธาธิการและผังเมือง และดีเอสไอ ซึ่งชุดที่ 1 และ 2 จะมีผู้แทนจากบริษัท อิตาเลียนไทยฯ นำตรวจค้น ส่วนชุดที่ 3 และ 4 จะมีผู้แทนกิจการร่วมค้า PKW นำตรวจค้น โดยจะเน้นหาเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคา ทั้งนี้จะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบตู้ที่ 19 เนื่องจากภายในมีชั้นวางสำหรับใส่เอกสารอยู่จำนวนมาก และจะมีการตรวจทีละตู้ หากตู้ไหนไม่ได้ใช้งานก็จะส่งมอบทรัพย์สินคืน ส่วนตู้ไหนที่มีหลักฐาน ก็ให้ทำการตรวจยึดไว้


ขณะที่ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า วันนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันกับวิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองพิสูจน์หลักฐาน จะเข้าตรวจสอบเอกสารที่อยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้ยึดอายัดไว้ทั้งหมด 24 ตู้ เพื่อนำเอกสารมาประกอบสำนวน โดยวันนี้จะแบ่งเจ้าหน้าที่เป็น 4 ชุดปฏิบัติการ เข้าตรวจสอบเอกสารทั้งหมด สิ่งที่อยากได้คือ คือ เอกสารเกี่ยวกับการก่อสร้าง, Shop Drawing, เอกสารผู้รับจ้างหลัก และผู้รับจ้างช่วง, เอกสารการทำงานของวิศวกรจีน-วิศวกรไทย, รายละเอียดการตรวจวัสดุ เช่น คอนกรีต เหล็ก ซึ่งเป็นเอกสารที่ไม่มีอยู่ที่สำนักงาน สตง. และหน่วยงานรัฐ

เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าเอกสารจะอยู่ไม่ครบ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกรณีที่ชาวจีนลักลอบขนออกไป ร.ต.อ.สุรวุฒิ ระบุว่า ไม่กังวลเพราะมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเอกสารที่เคยมีการขนออกไปก็ยืนยันว่าได้กลับคืนมาครบหมดแล้ว

โดยวันนี้ได้มีตัวแทนจาก บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และกิจการร่วมค้า PKW เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยตามขั้นตอน ส่วนบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ไม่ได้ส่งผู้แทน เพราะบริษัท อิตาเลียนไทยฯ มาในนามบริษัทอยู่แล้ว ทั้งนี้ เอกสารที่ได้จะถูกนำไปใช้ทั้งหมด 2 ส่วน คือในการสืบสวนข้อเท็จจริงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และการสืบสวนข้อเท็จจริงของกรมโยธาธิการและผังเมือง จึงทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว


ส่วนการเรียกสอบปากคำวิศวกร 40 ราย ได้ดำเนินการเรียกไปทั้งหมดแล้ว และจะเริ่มทยอยสอบวันละ 10 ราย เริ่มวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.) จะสอบปากคำไปต่อเนื่อง 4 วัน แต่ก็ต้องรอดูว่าวิศวกรจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำตามที่เรียกไปครบหรือไม่

สำหรับในวันนี้ ถือว่าครบรอบ 1 เดือน ของเหตุการณ์อาคาร สตง.ถล่มแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานยังคงเร่งค้นหาผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง. -420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำโขงใกล้แตะ 9 เมตร สทนช.เตือนเฝ้าระวัง

บึงกาฬ 6 ก.ค.- “แม่น้ำโขง” ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ใกล้แตะ 9 เมตร สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง ที่จังหวัดบึงกาฬ เกิดฝนตกติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและ สปป ลาว ตอนบน ประกอบกับ สปป ลาว มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่อง และมีมวลน้ำเหนือจากจังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย ไหลลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ วัดได้ 8.60 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 30 เซนติเมตร แต่ยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนที่ประตูระบายน้ำ ข้างสำนักงาน ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าทีเทศบาลได้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำที่สะสมตามท่อระบายน้ำต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองไหลลงสู่แม่น้ำโขง เช่นเดียวกับบริเวณด่านพรมแดนศุลกากร เรือโดยสารขนส่งสินค้าและเรือขนส่งผู้โดยสารไทย-ลาว ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากน้ำโขงไหลแรงและมีเศษวัชพืช เศษขยะไหลมากับสายน้ำ พร้อมขยับปรับระดับโป๊ะเทียบท่าให้อยู่ในระดับพอดี และผูกเชือกมัดโยงให้แน่นหนาเพื่อความปลอดภัย ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม […]

ชวนร่วมมหกรรม “ซอฟต์พาวเวอร์” ฟังวิสัยทัศน์จาก 3 นายกฯ

ทำเนียบรัฐบาล 6 ก.ค.-รัฐบาลเชิญร่วมงานมหกรรม Soft Power ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “SPLASH – Soft Power Forum 2025” ระหว่าง 8-11 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์ 3 นายกรัฐมนตรีไทย แลกเปลี่ยนมุมมองและแบ่งปันประสบการณ์สร้าง “มูลค่าทางวัฒนธรรม” นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่ตลาดโลกอย่างเป็นรูปธรรม จัดงาน Soft Power ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “SPLASH – Soft Power Forum 2025” ระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. Hall 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ คณะกรรมการพัฒนาและอนุกรรมการทุกสาขา โดยประสานพลังภาครัฐ เอกชน ชุมชน […]

เร่งแกะรอยมือยิงตำรวจ สภ.กรงปินัง เสียชีวิตหน้าร้านสะดวกซื้อ

ยะลา 6 ก.ค.- ผกก.สภ.กรงปินัง สั่งเร่งแกะรอยมือยิงตำรวจเสียชีวิตหน้าร้านสะดวกซื้อ ขณะปฏิบัติหน้าที่ตรวจความปลอดภัย เบื้องต้นคาดเป็นกลุ่มคนร้ายที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ เพื่อสร้างสถานการณ์ เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 19.40 น. ศูนย์วิทยุ สภ.กรงปินัง จ.ยะลา รับแจ้งว่ามีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ก่อเหตุซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กรงปินัง ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ใกล้กับบริเวณสามแยกทางเข้าที่ว่าการอำเภอกรงปินัง หมู่ที่ 7 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา เบื้องต้นมีตำรวจรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ทราบชื่อ ส.ต.ท.ธัญเทพ สิกขาจารย์ ผบ.หมู่ (ป) ปฏิบัติหน้า จราจร สภ.กรงปินัง จ.ยะลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดและชนิด บริเวณศีรษะ 1 นัด อาการสาหัส ก่อนเสียชีวิต ขณะนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลกรงปินัง จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 2 นาย เข้าไปตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อยภายในร้านสะดวกซื้อตามปกติ หลังจากปฏิบัติหน้าที่เสร็จสิ้น เมื่อเดินออกจากร้าน ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนคาดว่าอยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดซุ่มยิง จำนวน 1 […]

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย