ทองคำไทยสร้างสถิติสูงสุดอีก วันนี้แตะ 55,600 บาท

กรุงเทพฯ 22 เม.ย.-ราคาทองคำในไทยวันนี้สร้างสถิติสูงสุด แตะบาทละ 55,600 บาท ตามราคาทองคำโลก SCB FM มองราคาทองคำยังมีโอกาสปรับสูงขึ้นต่อ เงินบาทอาจอ่อนค่าได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวเงินบาทอาจแข็งค่า จากความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์สหรัฐที่ลดลง

สมาคมค้าทองรายงานว่า วันนี้ ราคาทองคำปรับเปลี่ยน ถึง 36 ครั้ง โดยราคาปิด ขายออกราคาทองแท่ง บาทละ 54,450บาท ทองรูปพรรณ บาทละ 55,250 บาท โดยระหว่างวันราคาทองคำทำสถิติสูงสุด ขายออก ทองแท่งบาทละ 54,800 บาท ทองรูปพรรณ 55,600 บาท บนฐานราคาทอง GOLD SPOT 3,496.50 ดอลลาร์/ออนซ์ อัตราแลกเปลี่ยน 33.12 บาท/ดอลลาร์ โดยราคาทองคำตลาดโลกทำนิวไฮ จากเหตุหวั่นเกรงสงครามการค้า ในขณะที่บาทแข็งขึ้นตามดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง หากเงินบาท ไมแข็งค่าขึ้นก็จะเห็นราคาทองคำขยับขึ้นไปอีก


นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส สายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB Financial Markets: SCB FM) เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงที่ผ่านมาแข็งค่าเร็ว ซึ่งไม่ใช่เพราะปัจจัยจากเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้น แต่เป็นเพราะปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลง ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าเร็วกว่าสกุลอื่นในภูมิภาค ทำให้ดัชนีเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ในระยะสั้นคาดว่า เงินบาทยังมีโอกาสกลับมาอ่อนค่าได้ เนื่องจากสหรัฐฯ อาจกลับมาขึ้นภาษี Tariffs บางส่วน และจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอลงคาดทำให้ คณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. ต้องลดดอกเบี้ยในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ อีกทั้ง คาดว่าธนาคารกลางของประเทศเอเชียส่วนใหญ่จะปล่อยให้ค่าเงินอ่อนค่าเทียบต่อดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจาก Tariff
s ทั้งนี้ ในระยะยาวคาดว่า เงินบาทอาจแข็งค่าได้ เนื่องจากเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าจากความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ ลดลง ขณะที่สกุลเงินหลักอื่นแข็งค่าขึ้น อีกทั้ง ราคาทองที่สูงจะช่วยพยุงเงินบาทด้วย

นายวชิรวัฒน์ เปิดเผยว่าเงินบาทช่วงที่ผ่านมาผันผวนแรง โดยในช่วงแรกที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีตอบโต้ เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าขึ้นใกล้เคียงระดับ 35.00 อย่างไรก็ดี หลังจากที่ทรัมป์ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีตอบโต้ออกไป 90 วัน ทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าเร็วใกล้เคียงระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งจะเห็นว่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วนี้เป็นผลจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่อเนื่อง เพราะตลาดมองว่าสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้า (Tariffs) มากกว่าประเทศเศรษฐกิจหลักอื่น จากการบริโภคและจ้างงานที่อาจแย่ลง ทำให้ความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์สหรัฐลดลง


นอกจากนี้ ล่าสุดตลาดกังวลเรื่องการปลด Jarome Powell ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งผลให้การเทขายสินทรัพย์สหรัฐฯ เร่งมากขึ้น ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดลง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (US Treasury yields) ปรับสูงขึ้น และดัชนีค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อ เงินบาทอาจกลับไปอ่อนค่าได้ในระยะสั้น โดยมองกรอบที่ราว 33.50-34.50 ต่อดอลลาร์สหรัฐ และในระยะยาว เงินบาทอาจแข็งค่าได้ มองกรอบที่ราว 32.50-33.50 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปีนี้ โดยปัจจัยหลักน่าจะมาจากดัชนีเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่า จากความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ ที่ลดลง โดยในกรณี Baseline ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนแอลงแต่ยังไม่ถึงขั้น Recession (เกิดการ unwind US Exceptionalism) ขณะที่เงินเฟ้อกลับมาเร่งตัวไม่มากโดยอาจอยู่ระหว่าง 3-4% ทำให้ Fed อาจลดดอกเบี้ยในปีนี้ได้ 3 ครั้งนับตั้งแต่กลางปีนี้ ซึ่ง SCB FM มองว่าจะทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบต่อสกุลเงินอื่นรวมถึงเงินบาท และเงินทุนมีแนวโน้มไหลออกจากสหรัฐฯ ต่อเนื่อง โดยบางส่วนไหลเข้าตลาดหุ้นกลุ่มประเทศยุโรป และตลาดบอนด์ของ EM Asia นอกจากนี้ สกุลเงินหลักอื่นก็มีแนวโน้มแข็งค่าเทียบต่อดอลลาร์ เช่น เงินยูโร และเงินเยน โดยในส่วนของเงินยูโรนั้น มีแนวโน้มแข็งค่าต่อจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ ส่วนเงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องตามการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น และคาดว่าภาคเอกชน เช่น กลุ่มธุรกิจประกัน พร้อมโยกเงินทุนกลับเข้าตลาดบอนด์ในญี่ปุ่นด้วย

ด้านราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจากความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยจะช่วยดันให้บาทแข็ง โดยล่าสุดราคาทองคำทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับราว 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดย SCB FM มองว่า ในระยะต่อไปยังมีโอกาสปรับสูงขึ้นต่อ เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินและบั่นทอนความเชื่อมั่นในสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์ ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยโดยเฉพาะทองคำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังพบว่ามีกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่กองทุน ETF ที่มีทองคำหนุนหลังจึงช่วยหนุนราคาทองต่อ รวมถึงการซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องโดยธนาคารกลางของหลายประเทศ ซึ่งราคาทองที่สูงขึ้นจะสนับสนุนการแข็งค่าของเงินบาทเพิ่มเติมด้วย

ทั้งนี้ มองว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวต่างจากที่ประเมินได้ โดยอาจมาจากสงครามการค้า หรือการปลดนายเจอโรม พาวเวลล์จากตำแหน่งประธาน Fed โดยหากไทยยังไม่สามารถทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อให้ลดภาษีลงได้ภายใน ก.ค. อาจทำให้ความเชื่อมั่นลดลง ประกอบกับแนวโน้มปัจจัยในประเทศที่อาจอ่อนแอในช่วง H2 กดดันบาทอ่อนค่ากว่าคาดได้ โดยในกรณีนี้อาจเห็นบาทกลับไปอ่อนค่าที่กรอบ 35.00-36.00 ต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ดี หากทรัมป์ปลดนายเจอโรม พาวเวลล์จากตำแหน่ง อาจทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สูงขึ้นเร็ว (เกิด Bond yields spike) และดัชนีเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อ กดดันให้บาทแข็งค่าลงไปใกล้ระดับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ได้.-511.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]