“ทวี” ยันไม่ปกป้องคนผิดคดี “อดีต ผกก.โจ้” ยังไม่ย้าย ผบ.คุก

ผู้กำกับโจ้

ทำเนียบ 11 มี.ค.-“ทวี” ยันไม่ปกป้องคนผิด คดีอดีต ผกก.โจ้ ยันกฎหมายอยู่เหนือระเบียบราชทัณฑ์ ยังไม่ย้าย ผบ.คุก ให้รอผลสอบสวน พร้อมโชว์สื่อเปิดวงจรปิดฉบับเต็ม


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายไม่เชื่อว่าอดีตผู้กำกับโจ้ จะฆ่าตัวตายในเรือนจำ และเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมนำภาพวงจรปิดฉบับเต็มมาเปิดเผย ว่า ตอนนี้ทราบว่าพนักงานสอบสวนเอาเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดไปแล้ว ซึ่งมีภาพวงจรปิดในเบื้องต้นให้กระบวนการสอบสวนดำเนินการ เนื่องจากเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ ส่วนรายละเอียดหากสื่อสงสัยก็ขอให้ราชทัณฑ์เปิดให้ดูทั้งหมดทุกแง่มุมดูได้ เพียงแต่ส่วนที่พนักงานสอบสวนยึดไปแล้ว อาจต้องประสานพนักงานสอบสวนเอง

นอกจากนี้ ตนได้สั่งให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ไปตรวจสอบข้อมูล ทราบว่าขณะนี้มีการร้องไปที่อัยการและกระทรวงยุติธรรม เราก็จะให้ความเป็นธรรม และจะเร่งทำให้กระจ่างเร็วที่สุด โดยมีพยานหลักฐานชี้ชัดคือผลการชันสูตรพลิกศพของทั้ง 2 โรงพยาบาล ซึ่งจะมี 2 ส่วนคือ สาเหตุการเสียชีวิต และ ก่อนเสียชีวิตมีการทรมานหรือไม่ ในขณะที่กระทรวงยุติธรรมการจะไปดูเรื่องการบังคับบัญชา การบริหารภายใน และจะเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้กรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการ มีหลายส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงเปิดโอกาสให้คนนอกด้วย


เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่ากระทรวงยุติธรรมไม่ได้ปกป้องบุคลากรและองค์กรของตัวเอง เนื่องจากการให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนเป็นรายวัน พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่คิดจะปกป้อง ในทางตรงข้ามอย่างช่วยกันตรวจสอบให้ความจริงปรากฏ อีกทางเราต้องการปฏิรูปกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรือนจำคลองเปรม ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีผู้ต้องขังมากที่สุด ผรพมาณกว่า 6,000 คน

ส่วน ผบ.เรือนจำ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่กรณีอดีตผู้กำกับโจ้ เนื่องจากญาติไปร้อง ป.ป.ช. จะต้องสั่งการให้ย้ายออกจากตำแหน่งก่อนหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่ในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องดู อีกทั้ง ผบ.เรือนจำ ก็เพิ่งมารับตำแหน่ง

ทั้งนี้ ผบ.เรือนจำ ได้ชี้แจงหรือไม่ว่าเหตุใด หลังได้รับเรื่องร้องเรียนถึงไม่ได้ทำอะไรเลย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า รอให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการในการสอบสวน เราต้องฟังความทั้ง 2 ข้าง ส่วนที่ฝ่ายค้านจะลงพื้นที่เรือนจำในช่วงบ่ายวันนี้ หากตนไม่ติดภารกิจ ครม. ก็จะไปร่วมด้วย


พ.ต.อ.ทวี ยังชี้แจงถึงสิ่งของที่ทางเรือนจำอนุญาตให้ผู้ต้องขังนำไปใช้ได้ โดยเฉพาะผ้าขนหนูที่อดีตผู้กำกับโจ้ใช้ ซึ่งแตกต่างจากเรือนจำอื่น ว่า ขึ้นอยู่กับหลักฐานในการซื้อ ว่าผ้าขนหนูที่กรมราชทัณฑ์แจกให้คนละ 1 ผืน ซึ่งรายละเอียดแต่ละเรือนจำก็ว่าไป แต่จะให้มีการสอบสวน ว่าเรือนจำไหนไม่แจก มีเหตุผลอะไร ของพร้อมยืนยันว่า ผ้าขนหนูเป็นของหลวง ไม่ใช่ของผู้ต้องขัง ซึ่งเรือนจำต้องดูแลทั้งเรื่องการกิน การอยู่ การนอน รวมถึงเสื้อผ้า ขณะเดียวกันย้ำว่า ผ้าขนหนูไม่ว่าจะเป็นแดนไหน ก็ต้องมีขนาดเดียวกัน แต่บางเรือนจำก็ไม่ให้มีขนาดที่ใหญ่เกินไป ขึ้นแยู่กับเหตุผลของแต่ละเรือนจำ ซี่งผ้าขนหนูที่มีขนาด 30-40 นิ้ว ทางเรือนจำเป็นคนซื้อให้

“ในแต่ละยุคก็มีการปรับเปลี่ยนขนาดของผ้าขนหนู แต่ปัจจุบันเป็นขนาดที่บอกไปเพราะเราจะมีการปฏิรูประบบอยู่แล้ว โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จะเหลือเพียงนักโทษระวาง (คดียังไม่ถึงที่สุด) ส่วนนักโทษเด็ดขาด ส่งไปที่เรือนจำคลองเปรม ให้แยกกันอยู่ชัดเจน”

พ.ต.อ.ทวี กล่าวเพิ่มเติมกรณีนักโทษที่อยู่ข้างห้องอดีตผู้กำกับโจ้ โดยยอมรับว่า ข้อมูลที่ตนพูดไปวานนี้คลาดเคลื่อน ซึ่งในเรือนจำ มีนักโทษที่เป็น LGBT ประมาณ 88 คน แปลงเพศแล้ว 18 คน ซึ่งขณะนั้นตนยืนอยู่กับปลัดกระทรวงยุติธรรมได้ยินเสียงนักโทษห้องข้างๆ ไม่ค่อยชัดเจน ตนจึงสั่งการให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมไปพูดคุย เจตนาคือการหาพยานในที่เกิดเหตุ เพียงแต่ภาพที่เห็นเขาคล้ายผู้หญิง จึงเข้าใจคลาดเคลื่อน

“ผมได้คุยเอง และปลัดกระทรวงยุติธรรมก็คุยด้วย ซึ่งในห้องของอดีตผู้กำกับโจ้ อยู่ระหว่างการชันสูตรพลิกศพแต่แต่ข้างห้อง มีน้องคนนี้อยู่ผมจึงให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมไปสอบถามว่าเห็นหรือได้ยินเหตุการณ์หรือไม่ ส่วนตกใจหรือไม่ที่เห็นคนที่มีลักษณะคล้ายผู้หญิง แต่อยู่ในเรือนจำผู้ชาย ผมแค่มุ่งพาญาติของอดีตผู้กำกับโจ้ ไปดูการชันสูตรพลิกศพ เพียงแต่ห้องมันติดกัน และทางเรือนจำจะให้คนที่เป็น LGBT ที่แปลงเพศแล้ว จะให้นอนด้วยกัน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

พ.ต.อ.ทวี ยังให้ความมั่นใจกับ ครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้และสังคม ว่าจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง อย่างตรงไปตรงมา เรือนจำไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และเราต้องดูแลผู้ต้องขังทุกคน เพื่อให้เป็นสถานที่ฟื้นฟู ไม่ใช่สถานที่มาทรมานใคร และเป็นไปตามกฎระเบียบของเรือนจำ ใครทำผิดก็ว่ากันไป

เมื่อถามว่ากฎระเบียบภายในเรือนจำต้องกวดขันหรือไม่ เพราะจุดเล็กๆ คือ การสูบยาเส้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อาจเป็นเพียงเสียงบอกเล่า ต้องรอให้คณะกรรมการตรวจสอบ

เมื่อถามว่า จะเรียกความเชื่อมั่นให้เรือนจำอย่างไร พ.ต.อ.ทวี ย้ำว่า ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา วันนี้สังคมอยากให้มีการสอบสวน เราก็ดำเนินการอยู่ อีกทั้งเรื่องของกฎหมายก็ให้ทางตำรวจดำเนินการ และทำให้รวดเร็ว ทั้งสาเหตุการตาย และมูลเหตุที่ทำให้เขาตาย เช่น หากเป็นการฆ่าตัวตาย อะไรเป็นมูลเหตุที่ทำให้เขาต้องทำอย่างนั้น และต้องดูว่าการปฎิบัติ ผิดกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการ 19 คน ว่าเรือนจำคลองเปรมมีอะไรต้องปรับปรุงหรือไม่

เมื่อถามว่า อยากให้ชี้แจงระเบียบของกระทรวงยุติธรรมที่ ผบ.เรือนจำ ได้กล่าวอ้างว่าไม่สามารถให้ตำรวจเข้าสอบสวน หลังได้รับการร้องเรียนอดีตผู้กำกับโจ้ถูกทำร้ายร่างกายได้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีระเบียบ คนจะเข้าราชทัณฑ์หากไม่มีหมายจำคุกก็เข้าไม่ได้ คนที่จะเข้าไปเยี่ยมก็ต้องมีการขออนุญาตจาก ผบ.เรือนจำก่อน ว่าเข้าไปทำหน้าที่อะไร ซึ่งยอมรับว่าการเข้าไปสอบสวนก็มีระเบียบ เพียงแต่การสอบสวนเป็นกฎหมายที่ใหญ่กว่ากฎหมายราชทัณฑ์ จะต้องให้ความร่วมมือ เพราะต้องสอบสวนโดยเร็ว

เมื่อถามว่าเพราะเหตุใด ผบ.เรือนจำ ถึงอ้างระเบียบของกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าก็เป็นคำกล่าวอ้าง รอให้คณะกรรมการตรวจสอบ จากนั้นก็จะพิจารณา ผบ.เรือนจำ ก็ใช้ระเบียบที่มีอยู่แต่โดยหลักการคนที่เสียหาย รัฐธรรมนูญคุ้มครอง วันนี้ไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย และใช้กฎหมายโดยหลักนิติธรรม

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดย้ายผู้คุมเรือนจำ และนักโทษคู่กรณี ของอดีตผู้กำกับโจ้ ล่าช้า พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าเป็นอำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่ พ.ต.อ.ทวี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สว. จะไปร้องเอาผิดที่ ป.ป.ช. กรณีรับสอบคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษข้อหาฟอกเงิน ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มองว่าถูกการเอาคืนหรือไม่ ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “โจ้ คงไม่มาเอาคืนผม” จนสื่อต้องบอกว่า เรื่อง สว. ไม่ใช่เรื่องอดีตผู้กำกับโจ้.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ในวันนี้ (22 ก.ย. 68) คาดว่าในช่วงวันที่ […]

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]