“ทวี” ยันไม่ปกป้องคนผิดคดี “อดีต ผกก.โจ้” ยังไม่ย้าย ผบ.คุก

ผู้กำกับโจ้

ทำเนียบ 11 มี.ค.-“ทวี” ยันไม่ปกป้องคนผิด คดีอดีต ผกก.โจ้ ยันกฎหมายอยู่เหนือระเบียบราชทัณฑ์ ยังไม่ย้าย ผบ.คุก ให้รอผลสอบสวน พร้อมโชว์สื่อเปิดวงจรปิดฉบับเต็ม


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายไม่เชื่อว่าอดีตผู้กำกับโจ้ จะฆ่าตัวตายในเรือนจำ และเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมนำภาพวงจรปิดฉบับเต็มมาเปิดเผย ว่า ตอนนี้ทราบว่าพนักงานสอบสวนเอาเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดไปแล้ว ซึ่งมีภาพวงจรปิดในเบื้องต้นให้กระบวนการสอบสวนดำเนินการ เนื่องจากเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ ส่วนรายละเอียดหากสื่อสงสัยก็ขอให้ราชทัณฑ์เปิดให้ดูทั้งหมดทุกแง่มุมดูได้ เพียงแต่ส่วนที่พนักงานสอบสวนยึดไปแล้ว อาจต้องประสานพนักงานสอบสวนเอง

นอกจากนี้ ตนได้สั่งให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ไปตรวจสอบข้อมูล ทราบว่าขณะนี้มีการร้องไปที่อัยการและกระทรวงยุติธรรม เราก็จะให้ความเป็นธรรม และจะเร่งทำให้กระจ่างเร็วที่สุด โดยมีพยานหลักฐานชี้ชัดคือผลการชันสูตรพลิกศพของทั้ง 2 โรงพยาบาล ซึ่งจะมี 2 ส่วนคือ สาเหตุการเสียชีวิต และ ก่อนเสียชีวิตมีการทรมานหรือไม่ ในขณะที่กระทรวงยุติธรรมการจะไปดูเรื่องการบังคับบัญชา การบริหารภายใน และจะเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้กรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการ มีหลายส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงเปิดโอกาสให้คนนอกด้วย


เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่ากระทรวงยุติธรรมไม่ได้ปกป้องบุคลากรและองค์กรของตัวเอง เนื่องจากการให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนเป็นรายวัน พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่คิดจะปกป้อง ในทางตรงข้ามอย่างช่วยกันตรวจสอบให้ความจริงปรากฏ อีกทางเราต้องการปฏิรูปกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรือนจำคลองเปรม ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีผู้ต้องขังมากที่สุด ผรพมาณกว่า 6,000 คน

ส่วน ผบ.เรือนจำ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่กรณีอดีตผู้กำกับโจ้ เนื่องจากญาติไปร้อง ป.ป.ช. จะต้องสั่งการให้ย้ายออกจากตำแหน่งก่อนหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่ในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องดู อีกทั้ง ผบ.เรือนจำ ก็เพิ่งมารับตำแหน่ง

ทั้งนี้ ผบ.เรือนจำ ได้ชี้แจงหรือไม่ว่าเหตุใด หลังได้รับเรื่องร้องเรียนถึงไม่ได้ทำอะไรเลย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า รอให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการในการสอบสวน เราต้องฟังความทั้ง 2 ข้าง ส่วนที่ฝ่ายค้านจะลงพื้นที่เรือนจำในช่วงบ่ายวันนี้ หากตนไม่ติดภารกิจ ครม. ก็จะไปร่วมด้วย


พ.ต.อ.ทวี ยังชี้แจงถึงสิ่งของที่ทางเรือนจำอนุญาตให้ผู้ต้องขังนำไปใช้ได้ โดยเฉพาะผ้าขนหนูที่อดีตผู้กำกับโจ้ใช้ ซึ่งแตกต่างจากเรือนจำอื่น ว่า ขึ้นอยู่กับหลักฐานในการซื้อ ว่าผ้าขนหนูที่กรมราชทัณฑ์แจกให้คนละ 1 ผืน ซึ่งรายละเอียดแต่ละเรือนจำก็ว่าไป แต่จะให้มีการสอบสวน ว่าเรือนจำไหนไม่แจก มีเหตุผลอะไร ของพร้อมยืนยันว่า ผ้าขนหนูเป็นของหลวง ไม่ใช่ของผู้ต้องขัง ซึ่งเรือนจำต้องดูแลทั้งเรื่องการกิน การอยู่ การนอน รวมถึงเสื้อผ้า ขณะเดียวกันย้ำว่า ผ้าขนหนูไม่ว่าจะเป็นแดนไหน ก็ต้องมีขนาดเดียวกัน แต่บางเรือนจำก็ไม่ให้มีขนาดที่ใหญ่เกินไป ขึ้นแยู่กับเหตุผลของแต่ละเรือนจำ ซี่งผ้าขนหนูที่มีขนาด 30-40 นิ้ว ทางเรือนจำเป็นคนซื้อให้

“ในแต่ละยุคก็มีการปรับเปลี่ยนขนาดของผ้าขนหนู แต่ปัจจุบันเป็นขนาดที่บอกไปเพราะเราจะมีการปฏิรูประบบอยู่แล้ว โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จะเหลือเพียงนักโทษระวาง (คดียังไม่ถึงที่สุด) ส่วนนักโทษเด็ดขาด ส่งไปที่เรือนจำคลองเปรม ให้แยกกันอยู่ชัดเจน”

พ.ต.อ.ทวี กล่าวเพิ่มเติมกรณีนักโทษที่อยู่ข้างห้องอดีตผู้กำกับโจ้ โดยยอมรับว่า ข้อมูลที่ตนพูดไปวานนี้คลาดเคลื่อน ซึ่งในเรือนจำ มีนักโทษที่เป็น LGBT ประมาณ 88 คน แปลงเพศแล้ว 18 คน ซึ่งขณะนั้นตนยืนอยู่กับปลัดกระทรวงยุติธรรมได้ยินเสียงนักโทษห้องข้างๆ ไม่ค่อยชัดเจน ตนจึงสั่งการให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมไปพูดคุย เจตนาคือการหาพยานในที่เกิดเหตุ เพียงแต่ภาพที่เห็นเขาคล้ายผู้หญิง จึงเข้าใจคลาดเคลื่อน

“ผมได้คุยเอง และปลัดกระทรวงยุติธรรมก็คุยด้วย ซึ่งในห้องของอดีตผู้กำกับโจ้ อยู่ระหว่างการชันสูตรพลิกศพแต่แต่ข้างห้อง มีน้องคนนี้อยู่ผมจึงให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมไปสอบถามว่าเห็นหรือได้ยินเหตุการณ์หรือไม่ ส่วนตกใจหรือไม่ที่เห็นคนที่มีลักษณะคล้ายผู้หญิง แต่อยู่ในเรือนจำผู้ชาย ผมแค่มุ่งพาญาติของอดีตผู้กำกับโจ้ ไปดูการชันสูตรพลิกศพ เพียงแต่ห้องมันติดกัน และทางเรือนจำจะให้คนที่เป็น LGBT ที่แปลงเพศแล้ว จะให้นอนด้วยกัน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

พ.ต.อ.ทวี ยังให้ความมั่นใจกับ ครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้และสังคม ว่าจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง อย่างตรงไปตรงมา เรือนจำไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และเราต้องดูแลผู้ต้องขังทุกคน เพื่อให้เป็นสถานที่ฟื้นฟู ไม่ใช่สถานที่มาทรมานใคร และเป็นไปตามกฎระเบียบของเรือนจำ ใครทำผิดก็ว่ากันไป

เมื่อถามว่ากฎระเบียบภายในเรือนจำต้องกวดขันหรือไม่ เพราะจุดเล็กๆ คือ การสูบยาเส้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อาจเป็นเพียงเสียงบอกเล่า ต้องรอให้คณะกรรมการตรวจสอบ

เมื่อถามว่า จะเรียกความเชื่อมั่นให้เรือนจำอย่างไร พ.ต.อ.ทวี ย้ำว่า ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา วันนี้สังคมอยากให้มีการสอบสวน เราก็ดำเนินการอยู่ อีกทั้งเรื่องของกฎหมายก็ให้ทางตำรวจดำเนินการ และทำให้รวดเร็ว ทั้งสาเหตุการตาย และมูลเหตุที่ทำให้เขาตาย เช่น หากเป็นการฆ่าตัวตาย อะไรเป็นมูลเหตุที่ทำให้เขาต้องทำอย่างนั้น และต้องดูว่าการปฎิบัติ ผิดกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการ 19 คน ว่าเรือนจำคลองเปรมมีอะไรต้องปรับปรุงหรือไม่

เมื่อถามว่า อยากให้ชี้แจงระเบียบของกระทรวงยุติธรรมที่ ผบ.เรือนจำ ได้กล่าวอ้างว่าไม่สามารถให้ตำรวจเข้าสอบสวน หลังได้รับการร้องเรียนอดีตผู้กำกับโจ้ถูกทำร้ายร่างกายได้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีระเบียบ คนจะเข้าราชทัณฑ์หากไม่มีหมายจำคุกก็เข้าไม่ได้ คนที่จะเข้าไปเยี่ยมก็ต้องมีการขออนุญาตจาก ผบ.เรือนจำก่อน ว่าเข้าไปทำหน้าที่อะไร ซึ่งยอมรับว่าการเข้าไปสอบสวนก็มีระเบียบ เพียงแต่การสอบสวนเป็นกฎหมายที่ใหญ่กว่ากฎหมายราชทัณฑ์ จะต้องให้ความร่วมมือ เพราะต้องสอบสวนโดยเร็ว

เมื่อถามว่าเพราะเหตุใด ผบ.เรือนจำ ถึงอ้างระเบียบของกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าก็เป็นคำกล่าวอ้าง รอให้คณะกรรมการตรวจสอบ จากนั้นก็จะพิจารณา ผบ.เรือนจำ ก็ใช้ระเบียบที่มีอยู่แต่โดยหลักการคนที่เสียหาย รัฐธรรมนูญคุ้มครอง วันนี้ไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย และใช้กฎหมายโดยหลักนิติธรรม

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดย้ายผู้คุมเรือนจำ และนักโทษคู่กรณี ของอดีตผู้กำกับโจ้ ล่าช้า พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าเป็นอำนาจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่ พ.ต.อ.ทวี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สว. จะไปร้องเอาผิดที่ ป.ป.ช. กรณีรับสอบคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษข้อหาฟอกเงิน ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มองว่าถูกการเอาคืนหรือไม่ ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “โจ้ คงไม่มาเอาคืนผม” จนสื่อต้องบอกว่า เรื่อง สว. ไม่ใช่เรื่องอดีตผู้กำกับโจ้.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]