นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

เงินหมื่นเฟส3

ทำเนียบฯ 10 มี.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบโอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1ครั้งที่ 1/2568 ทำเนียบรัฐบาล เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 เน้นกลุ่มผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ กลุ่มอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท เพราะคนรุ่นใหม่ ใช้เงินผ่านดิจิทัลได้คล่อง นับเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้เงินผ่านโครงการดิจิทัลอย่างแท้จริง

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกของการจ่ายเงินดิจิทัล ผ่านระบบธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ การใช้กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มอายุ 16-20 ปี คาดว่ากระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีมาก นับเป็นการกระจายการใช้จ่ายอย่างทั่วถึง รัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้เงินใหม่ทั้งหมด เน้นใช้จ่ายกับร้านค้าเข้าร่วมโครงการ ซื้อของได้ทุกอย่างในร้าน กระทรวงพาณิชย์ จึงคุมเข้มในการเปิดร้านค้าเข้าร่วมโครงการ จากนั้นเปิดทางให้ร้านค้าขึ้นนเงินสดได้ ไม่เน้นเฉพาะร้านค้าเสียภาษี


“นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเรื่องการ ทุจริจการใช้เงิน หรือใช้เงินไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ จึงมีอนุกรรมการติดตามดูแลการใช้เงินดิจิทัลในทางที่ผิด เพื่อคุมเข้มเรื่องนี้อย่างจริงจัง เช่น ทะเบียนบ้านอยู่ จ.พิษณุโลก ร้านค้าต้องอยู่ในพิษณุโลก แต่หากไปใช้เงินในเขตกรุงเทพฯ มือถือจะแชร์โลเคชั่น ทำให้จ่ายเงินไม่ได้ จากบทเรียนการโอนเงินที่ผ่านมา อนุกรรมการฯ จะติดตามป้องกันได้มากขึ้น การลงทะเบียนดิจิทัลวอเล็ตครั้งนี้ จะนำข้อมูลของกลุ่มต่างๆ นำไปวางแผนกำหนดนโยบายการช่วยเหลือประชาชนให้ครอบคลุมมากขึ้นอนาคต หลังจากนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันกำหนดรายละเอียดและขับเคลื่อนนโยบาย” นายพิชัยกล่าว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การโอนเงินให้กับกลุ่มวันรุ่นอายุ 15-20 ปี นับเป็นกลุ่มนำร่องในการใช้เงินดิจิทัลเพราะใช้มือถือและไอทีได้คล่อง น่าจะเป็นกลุ่มใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี คาดว่าปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 จะเริ่มใช้จ่ายผ่านดิจิทัลวอเล็ตได้ โดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอม นักเรียนและผู้ปกครองจะได้มีเงินซื้ออุปกรณ์การเรียน และใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ กลุ่มวัยทำงานอายุ 20-60 ปี จะโอนเงินให้อย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลสำรองเงินเอาไว้กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเหมาะสมวงเงิน 1.5 แสนล้านคน จึงไม่มีปัญหาเรื่องกระแสเงินสดขาดมือ รัฐบาลจึงต้องการให้กลุ่มวัยรุ่น 15-20 ปี เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นเลือกให้เป็นกลุ่มนำร่องการใช้เงินดิจิทัล

”รัฐบาลตั้งโครงการใหม่ขึ้นมาทั้งหมด จึงเน้นร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการตามคุณสมบัติที่กำหนดใหม่ทั้งหมด ดังนั้น ร้านค้าที่มีตราสัญลักษณ์ เข้าไปซื้อสินค้าได้ทั้งหมด โดยตัดข้อห้ามการซื้อสินค้าที่กำหนดไว้ เปลี่ยนมาเป็นคัดกรองร้านค้าร่วมโครงการ โดยไม่ห้ามตัวสินค้า หากเข้าไปในร้านโชว์ห่วย มีสินค้าหลากหลาย เลือกซื้อได้ทุกประภท โดยกำหนดประเภทร้านค้าร่วมโครงการ เช่น ห้ามร้านขายทอง ขายเหล้าโดยเฉพาะ โดยร้านค้าทุกประเภท ขึ้นเงินสดได้เมื่อขายของได้แล้ว เพื่อความสะดวก และให้ร้านค้าร่วมโครงการได้มากขึ้น“ นายจุลพันธ์ กล่าว


นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การโอนเงินให้กับกลุ่มไม่มีมือถือ เตรียมให้แบงก์รัฐ ทั้ง ธ.ก.ส. ธ.ออมสิน ไอแบงก์ ไปษณย์ไทย หน่วยงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดลงทะเบียนในสาขาตามพื้นที่ต่างๆ หรือตามหน่วยงานเตรียมการรองรับลงทะเบียน เพื่อให้ประชาชนร่วมโครงการในเร็วๆนี้ จึงอยากให้ประชาชนเข้ามาลงทะทะเบียนให้เยอะๆ เพราะจะนำฐานข้อมูลไปช่วยเหลือสวัสดิการในหลายด้านในอนาคต เพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิทัล ยืนยันมีระบบคัดกรองย่างละเอียด

”ขอบอกว่าไม่สามารถแกล้ง ทำเป็นไม่มีมือถือไม่ได้เลย เพราะได้ตรวจสอบการใช้มือถือย้อนหลัง 3 เดือนกับค่ายเมือถือ ใช้ต้องมูลไม่เกิน 500 เมกกะไบท์ เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกับกลุ่มที่เคยได้รับเงิน ทั้งกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ขณะนี้แอปฯ รองรับลงทะเบียนพร้อมแล้ว
ขณะนี้เศรษฐกิจไตรมาส 2 เริ่มดีขึ้น อาจแผ่วลงในช่วงปลายไตรมาส 3 จึงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงนั้น เพื่อให้กลุ่มอายุ 20-60 ปี ได้รับการโอนเงิน ยอดเงินที่กันไว้ 1.5 แสนล้านบาท น่าจะเพียงพอกระตุ้นเศรษฐกิจ“ นายเผ่าภูมิ กล่าว

นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังหารือออกมาตรการเป็นแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ หวังผลักดันให้จีดีพี 2568 นี้ ให้ขยายตัว 3-3.5% ต่อปี มุ่งเน้น 3 เครื่องจักรผลักดันเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ 1. เร่งรัดการลงทุนผ่านงบประมาณภาครัฐให้ได้ร้อยละ 85 จากปกติเบิกจ่ายจร้อยละ80 ผลักดันการลงทุนเอกชน ผ่านการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งได้รับยอดส่งเสริมสูงสุดในรอบ 10 ปี จึงต้องการให้เกิดการลงทุนจริงภายใน 2 ปี จากเดิม 3 ปี นับว่าเป็นที่ต้องการของภาคเอกชน 2.การผลักดันส่งออก รัฐบาลตั้งเป้าหมายการเติบโตไม่ต่อกว่าร้อยละ 4.4 และ 3.ผลักดันการท่องเที่ยว จากปีก่อนมีนักท่องเที่ยงต่างชาติเข้าประเทศ 35 ล้านคน ในปี 68 นี้ตั้งเป้าไว้ประมาณ 38.5 ล้านคน ผ่านการจัดอีเวนต์ต่าง ๆ โดยต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวให้ได้มากขึ้น.-515 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย