นายกฯ คุยผู้นำจีนหลายระดับ ก่อนส่งกลับ 40 อุยกูร์

ทำเนียบ 28 ก.พ.- นายกฯ เผยคุยผู้นำจีนหลายระดับ ก่อนส่ง 40 ชาวอุยกูร์กลับจีน ให้คำมั่นทุกคนปลอดภัย ไม่ถูกดำเนินคดี ด้าน รมต.ไทย ติดตามความเป็นอยู่ได้ ยึดหลักสิทธิมนุษยชน ยันทุกคนสมัครใจ ลั่นไม่มีประเทศที่สามขอรับตัว แม้แต่ประเทศที่ประณามไทย


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงไทยโดนประณามจากสหรัฐอเมริกา และยุโรป กรณีส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คน ที่ถูกคุมขังในไทยกว่า 11 ปี กลับประเทศจีน ว่า เราได้ตรวจเช็กว่าทำอะไรได้บ้าง ชาวอุยกูร์เข้าประเทศไทยมาผิดกฎหมายและติดคุกที่ไทยมา 11 ปีแล้ว นั่นคือการลงโทษที่นานและ 11 ปีที่ผ่านมาได้เช็กข้อมูลเรียบร้อย ว่า ยังไม่เคยมีประเทศที่สาม ขอรับตัวชาวอุยกูร์เหล่านี้กลับประเทศ ซึ่งประเทศจีนได้ติดต่อมาและมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคนจีน และเมื่อยืนยันได้ว่าเป็นคนของประเทศใดก็ต้องส่งกลับประเทศนั้น ไม่ได้ทำผิดกฎสหประชาชาติ หรือหลักสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด และเราทราบดีเรื่องสิทธิมนุษยชนการที่เขามาอยู่ 11 ปีก็เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะถูกกักขัง เมื่อได้คุยกับทางการจีนแล้วมีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าหากไทยส่งตัวอุยกูร์กลับไปเขาจะไม่ต้องถูกดำเนินคดี สอบสวนอะไร และสามารถกลับไปอยู่กับครอบครัวของตนเองได้ ยอมรับว่ามีการคุยกันมาสักพัก เมื่อมีการจัดการที่ดีของทั้งสองประเทศ ก็จะสามารถทำให้ชีวิตของเขาเหล่านั้นปลอดภัยได้ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอาจมีการจัดการที่ผิดพลาดแต่ครั้งนี้เราคุยกันในระหว่างที่ตนเองเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ได้พูดคุยกับผู้นำหลายระดับ และได้คุยกับรัฐมนตรีความมั่นคงของจีนด้วยตนเอง เขาก็ยืนยัน และตนเองคิดว่าเป็นเรื่องที่เขาได้ให้คำมั่นสัญญาว่าทุกคนที่ได้กลับไปจะปลอดภัย ไม่เช่นนั้นเราไม่ทำการส่งไปแน่นอน หากไม่ได้รับการยืนยันแบบนี้ เป็นการยืนยันที่เราประสานกันและทำทุกอย่างให้ราบรื่นที่สุด หลายคนน่าจะได้เห็นรูปแล้วว่าเขากลับไปสู่อ้อมกอดครอบครัว เป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยจากนี้ทางการจีนได้อนุญาตให้ประเทศไทยสามารถบินไปเยี่ยมหรือสอบถามว่าชาวอุยกูร์ที่กลับไปแล้วมีความเป็นอยู่ มีชีวิตที่ดีหรือไม่ เขาไม่ได้ปิดกั้นตรงนี้กับเรา ซึ่งพอกระบวนการเป็นเช่นนี้เราไม่มีทางส่งไปโดยที่เราไม่รู้ว่าเขาเป็นตายร้ายดีอย่างไร เราไม่ทำแน่ เราเน้นเรื่องสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว พอเรามีความมั่นใจ เราถึงดำเนินการ

ส่วนเสียงวิจารณ์ว่าการส่งตัวอุยกูร์ครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนทางการค้ากับจีน นายกรัฐมนตรี ยืนยันหนักแน่นว่าไม่มี ไม่มีการแลกเปลี่ยนทางการค้าใดๆ กับการส่งอุยกูร์ ไม่มีเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับการที่เราจะคุยเรื่องการค้า เราก็คุยกันค้า แต่นี้เป็นเรื่องของคนซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับสินค้า คนไม่ใช่สินค้า ไม่แลกกันแน่นอน


เมื่อถามว่าจะมีการชี้แจงกับสหรัฐอเมริกา หลังรัฐมนตรีต่างประเทศออกแถลงการณ์ประณามไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องมีการอัปเดตข้อมูลและหลายประเทศก็ติดตามข้อมูลแต่ข้อมูลล่าสุดที่เราประสานอย่างจริงจังเป็นกิจจะลักษณะเราไม่ได้พูดกันเล่น ๆ และตนเอง ไม่ได้พูดออกสู่สาธารณะตั้งแต่แรกเพราะเป็นเรื่องความมั่นคง เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนเองได้พูดคุย และ ไปยืนยันรับรองความปลอดภัยเป็นเรื่องที่รัฐบาลรับทราบและ ต้องการให้ปลอดภัยที่สุด ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุข้อขัดข้องแม้กระทั่งการเดินทาง หรือทำอะไรที่ไม่เคารพสิทธิของเขา ทำรุนแรง จี้ ไม่มี ไปด้วยความสงบเรียบร้อย อย่างที่เห็นตั้งแต่ลงเครื่องเขากลับสู่ครอบครัวจริง ๆ หากลองคิดดูว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับประเทศเรา ภาพออกไปทั่วโลก เราจะพลิกคำสัญญากับประเทศเพื่อนบ้านหรือ มันก็จะผิด ทั่วโลกก็จะมองเห็น เพราะฉะนั้นถึงได้มีความมั่นใจ เมื่อกลับไปแล้ว ทางจีนจะดูแลคนกลุ่มนี้อย่างดี

ส่วนเมื่อวานที่นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ยืนยันว่ามีการส่งตัวชาวอุยกูร์ ต้องการที่จะได้รับการยืนยันก่อนใช่หรือไม่ ว่าจะถูกส่งกลับอย่างปลอดภัย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่จริงแล้วเป็นเรื่องทางการทูต ว่าใครจะเป็นคนแถลง ทางจีนจะพูดก่อนหรือไม่ ต้องมีการทูต แต่การรับรู้รับทราบตนเองทราบอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่สเหมาะสมหรือไม่ที่ต้องพูดตอนนั้น หากอยูาในวงสัมภาษณ์ เรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าตนเองพูดออกไปสองสามคำและข้อความถูกเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นมันเป็นเรื่องความมั่นคง เรื่องของประเทศ ไม่สามารถพูดคำสองคำแล้วเดินไปได้ มันตัองอธิบาย วันนี้จึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ ส่วนรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระรวงกลาโหม ได้ชี้แจงไปแล้ว

ส่วนหากมีสื่อไทยอยากไปติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองไม่แน่ใจถ้าเป็นสื่อจะอย่างไร เพราะที่คุยกันคือรัฐมนตรีสามารถไปได้ เรื่องสื่อตนเองไม่ทราบ เพราะมีเรื่องความมั่นคง


เมื่อถามว่าทางการจีนได้ชี้แจงหรือไม่ว่าชาวอุยกูร์ส่งกลับไปจะไปอยู่ในสถานที่ใด และรับรองความปลอดภัยอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนที่หารือกัน ทางการจีนพูดว่าจะใหัทุกคนกลับคืนสู่สังคมตามปกติ และกลับสู่ครอบครัว ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ได้เป็นอาชญากร แต่เข้าเมืองผิดกฎหมายและถูกคุมขังมาแล้ว 11 ปี นานมากแล้ว ซึ่งภาพที่ปรากฏก็ไม่เห็นมีการใส่กุญแจมืออย่างใด

ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่า ตุรกีขอรับตัวไป แต่สุดท้ายเกิดเหตุขัดข้อง นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไม่มีประเทศที่ 3 เสนอขอรับตัวอุยกูร์เลย อยากประเทศทึ่ออกมาประณามก็ไม่มีใครเสนอมาเลย เพราะฉะนั้นทางการจีนยืนยันว่าเป็นคนจีน ไทยก็ต้องส่งกลับ นั่นคือหลักปฏิบัติตามปกติ

เมื่อถามว่าชาวอุยกูร์ เดินทางกลับจีนด้วยความสมัครใจ และมีเอกสารยืนยัน ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าเอกสารมีอะไรบ้าง แต่เรื่องกระบวนการตนเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยในทุกขั้นตอน ส่วนเรื่องเอกสารให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมชี้แจง ยืนยันชาวอุยกูร์ทุกคนสมัครใจ ไม่เช่นนั้น จะต้องลาก แต่นี่เขาเดินขึ้นเครื่องตามปกติ

ส่วนกังวลจะกระทบความสัมพันธ์กลุ่มประเทศมุสลิม หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวส่า ต้องอาศัยเวลาอธิบายและต้องดูด้วยว่าเมื่อเขากลับไปปลอดภัยจริงหรือไม่ ตนเองคิดว่า การที่เขาปลอดภัย ก็น่าจะเป็นเครื่องหมายในการอธิบายได้แล้วว่าเราได้ส่งเขากลับ ถ้าไม่ชัวร์เราไม่ทำอยู่แล้ว ถ้าส่งกลับไป แล้วเกิดอะไรขึ้น ตนคงรับไม่ได้ ย้ำว่าต้องชัวร์ ชัวร์แล้ว ไม่เช่นนั้นไม่ส่งกลับไปเช่นกัน

ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันต่อว่า สื่อมวลชนของไทย สามารถเดินทางไปติดตามภายหลังที่ส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีนได้ และในช่วงกลางเดือนมีนาคม พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะทางไปติดตาม เป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่ไทยได้ส่งกลับไปที่จีน .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย