“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

14 พ.ย.- “หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่


เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 14 พ.ย.67 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือ “หนุ่ม กรรชัย” เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ พงส.กก.1 บก.ป. กรณีที่มีคลิปเสียง น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ มีการแอบอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” และรายการโหนกระแส เรียกรับเงินจาก บอสปัน จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อแลกกับการให้นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้ไปออกรายการ

“หนุ่ม กรรชัย” เปิดเผยว่า ตนมาให้ปากคำในกรณีที่มีคลิปเสียงของ ฟิล์ม รัฐภูมิ และ น.ส.กฤษอนงค์ ที่มีการพูดคุยกันกับบอสปัน โดยมีการกล่าวอ้างพาดพิงชื่อตนในการเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท เพื่อที่จะไปออกรายการโหนกระแส โดยใช้ถ้อยคำประมาณว่าสามารถที่จะเขียนบทหรือเขียนสคริปต์รายการให้ทางบอสพอลได้ หากบอสพอลมาออกรายการ และยังมีการกล่าวอ้างอีกว่า ตนเปิดทางให้แล้ว และตนเองก็สามารถชี้ผิดให้เป็นถูกได้ ซึ่งทุกสิ่งที่ได้มีการพูดออกไปในคลิปเสียงนั้น เป็นการหมิ่นประมาทตน และโกหกหลอกลวงคนอื่นเพื่อกรรโชกทรัพย์ เบื้องต้นตนจะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทก่อน แต่หากกฎหมายจะสามารถเอาผิดในเรื่องใดได้บ้าง ตนจะดำเนินการในทุกเรื่อง และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีการยอมความ ไกล่เกลี่ยหรือเจรจา เพราะตนไม่ใช่นักเคลียร์ ไม่ต้องมาเคลียร์กับตน


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากคลิปเสียงที่เรียกรับเงินกับบอสปันแล้ว ยังมีคลิปเสียงที่มีการกล่าวอ้างถึงรัฐมนตรีท่านหนึ่งด้วย ในวันนี้ได้มีการนำมามอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ “หนุ่ม กรรชัย” กล่าวว่า ในส่วนนี้ ต้องให้ทางรัฐมนตรีคนดังกล่าวเป็นคนดำเนินการเอง ส่วนตัวได้มีการส่งคลิปให้กับท่านรัฐมนตรีแล้ว ยืนยันว่าภายหลังจากที่มีการดำเนินการเข้าแจ้งความแล้วตนไม่ได้ติดต่อกับทางตัวฟิล์ม รัฐภูมิ แต่อย่างใด แต่ก่อนแจ้งความ 1 วัน ตนได้โทรศัพท์หาฟิล์มไปแล้วถึง 3 ครั้ง เพื่อถามข้อเท็จจริง แต่ทางด้านฟิล์มยืนยันว่าไม่ได้กระทำ และเป็นคลิปตัดต่อ ซึ่งขณะที่โทรหาฟิล์มยังหวังให้ตัวฟิล์มพูดความจริง และหากเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นผู้กระทำจริง ตนจะไม่มีการเผยแพร่คลิปที่มีความยาวถึง 29 นาทีที่มีอยู่ในมือ และจะให้โอกาสเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงกับสังคม แต่เมื่อเจ้าตัวไม่ยอมรับ ตนจึงตัดสินใจวางสายและตัดขาดความสัมพันธ์พี่น้องในทันที และโทรหาทนายความส่วนตัวเพื่อดำเนินการเข้าแจ้งความเอาผิด ทั้งนี้ตนยังฝากข้อความสุดท้ายกับฟิล์มไว้ว่า “หากมีอะไรเกิดขึ้นต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด”

แต่หลังจากที่พูดคุยจบแล้ว ทางฝั่งของฟิล์มก็มีการโทรกลับมาหาตนอีกหลายครั้ง แต่ตนเลือกที่จะไม่รับสายอีกต่อไป และหลังจากนั้นทางฝั่งตัวฟิล์มจะออกมาพูดอะไรก็เป็นส่วนของตัวเขา

“อยากจะพูดอะไรก็เชิญ แต่ตนคิดว่าประชาชนรวมถึงตนเองไม่ได้กินหญ้า ทุกคนกินข้าว ไม่ใช่ควาย เรามีสมอง มีสามัญสำนึกและมีวุฒิภาวะ ที่จะรู้ได้ว่าอะไรคืออะไร สิ่งที่คุณออกมาพูด คุณจะกลายเป็นตัวตลกด้วยซ้ำ” หนุ่ม กรรชัย กล่าว


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสิ่งที่ น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวอ้างว่า ไม่ใช่การกรรโชกทรัพย์แต่เป็นการเสนอแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อการแก้ภาพรวมทั้งหมดของธุรกิจนั้น ฟังขึ้นหรือไม่ “หนุ่ม กรรชัย” ระบุว่า ต้องถามว่าทาง น.ส.กฤษอนงค์ ตีความคำว่ากรรโชกทรัพย์ว่าอย่างไร เพราะจากที่ตนฟัง การที่ไปบอกว่าหากไม่ทำแบบนี้ ตนจะชี้ผิดชี้ถูก ซวยเลยนะ คนที่กลัวอยู่ก็ต้องตกใจและยอมจ่าย รวมถึงเจ้าตัวก็มีทนายในมือ ก็ให้ไปถอดคลิปเสียงทีละคำดูว่าเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์หรือไม่ ซึ่งตนไม่ชอบคนที่อาศัยจุดอ่อนของคนอื่นเพื่อหาผลประโยชน์ ตนรู้สึกว่าวิธีการดังกล่าวไม่แฟร์และไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ตนอยากให้ทุกคนที่ถูกบุคคลเหล่านี้กระทำดังกล่าว ให้ออกมาร้องทุกข์เพิ่มได้เลยไม่ต้องอาย อย่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคม

สำหรับเรื่องเรียกค่าเสียหายนั้น ตนเชื่อว่าชื่อเสียงของตนที่เสียไป ไม่ใช่แค่ตัวเลข 20 ล้านบาท เพราะตนทำงานมานาน และตนมีมูลค่ามากกว่านั้น หากจะเรียกก็จะเรียกมากกว่า 20 ล้านบาท ที่ผ่านมาตนและทีมงานรายการโหนกระแสถูกนำชื่อไปอ้างและหลอกลวงประชาชนมาเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะถูกนำไปหลอกเอาเงินมูลค่าขนาดนี้

เมื่อถามว่าจะใช้คำว่า มันจบแล้วครับน้องได้หรือไม่ หนุ่ม กรรชัยถามกลับว่า “เขาเป็นน้องตนตอนไหน ตนไม่มีน้องแบบนี้ และไม่ได้สนิทอะไร แค่ทำงานร่วมกัน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ตนถือว่าเกินไป เพราะเป็นจำนวนเงินที่เยอะ และเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม ลำบากยากแค้นถึงขั้นต้องทำขนาดนี้เลยหรือ ไม่มีศักดิ์ศรีเลยหรือ และสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ไร้ศักดิ์ศรี”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรจะฝากเตือนยบุคคลเหล่านี้หรือไม่ “เตือนแล้วฟังหรือไม่ ไม่เตือนดีกว่า เพราะผิดชอบชั่วดีเป็นสิ่งที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์จะสอนตั้งแต่เด็กๆ สิ่งที่คุณเป็นอยู่วันนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เด็กๆ ว่า ที่บ้านคุณสอนหรือไม่ ว่า เป็นคนดีอย่างไรไม่ต้องให้คนอื่นมาสอน” หนุ่ม กรรชัย กล่าว .414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ครม. เคาะตั้ง “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี”

ทำเนียบ 20 พ.ค.- ครม. เคาะ “ชูศักดิ์” คุมดีเอสไอ แทน “ทวี” หลังศาล รธน.สั่งหยุดทำหน้าที่ชั่วคราว คดีฮั้วเลือก สว. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติมอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนในการบริหารสั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ จากกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวนหนึ่งเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ว่า พ.ต.อ.ทวีใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือแทรกแชงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ส่วนกรณีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เคยมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องขอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการมอบหมายอีก .-316 -สำนักข่าวไทย

คนงานตกหลุม

เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม เปิดหน้าดินค้นหา

20 พ.ค.- เร่งช่วยคนงานตกหลุมเสาเข็ม ไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีหลานหลวง เจ้าหน้าที่ทำการเปิดหน้าดินค้นหาต่อเนื่อง เบื้องต้นยังไม่พบ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) เปิดเผยว่า จากเหตุคนงานตกหลุมเสาเข็มขณะก่อสร้างรถไฟฟ้าปฏิบัติการช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (19 พ.ค. 2568) มีการปักเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) เพื่อป้องกันการสไลด์ของหน้าดิน ทำระบบค้ำยันเบรสซิ่ง (Bracing) ป้องกันเหล็กชีทไพล์พังทลายจากแรงอัดมวลดิน ควบคู่กับการใช้รถแบ็กโฮเปิดหน้างานเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหาย เวลา 07.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.2568) ทีมช่างของผู้รับเหมาได้ทำเวลเลอร์ที่ระดับความลึก 6 เมตร เพื่อป้องกันเหล็กชีทไพล์ (Sheet Pile) พังทลาย เนื่องจากพื้นที่ทำงานจำกัดจึงใช้อุปกรณ์ Auger ทำการเปิดหน้าดินหลุมดินด้านข้างเพื่อให้ดินสไลด์ออกด้านข้างแทน .-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก มีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 […]