วธ.เปิดตัว “หมูเด้ง” พรีเซนเตอร์ลอยกระทง มอบรางวัล ตัวตึง ถึงไทย ฮีลใจชาวโลก

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว 31 ต.ค.- กระทรวงวัฒนธรรม ชู หมูเด้ง เป็นพรีเซนเตอร์ วันลอยกระทง พร้อมยกให้เป็น Thai cuteness : ตัวตึง ถึงไทย ฮีลใจชาวโลก ขอบคุณทีมสวนสัตว์เปิดเขาเขียวที่ช่วยเผยแพร่ความเป็นไทยผ่านหมูเด้ง ฮิปโปแคระสุดฮอตในโลกออนไลน์ เป็นผู้นำสื่อสารความเป็นไทยไปทั่วโลก


นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดตัวโครงการส่งเสริม Thai Cultural Content for Soft Power Presented by Moo Deng เพื่อขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจวัฒนธรรม โดยใช้พลังของ Soft Power ผ่าน “น้องหมูเด้ง” ฮิปโปแคระ สัตว์น้อยน่ารักที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์ เป็นผู้สื่อสารความเป็นไทยสู่สากล ผ่านมรดกภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยที่โดดเด่นสู่เวทีโลก โดยมี นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม รองศาสตราจารย์เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการ นายภัทระ คำพิทักษ์ กรรมการองค์การสวนสัตว์ แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมพิธีเปิดงาน ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

นางสาวสุดาวรรณ รมว.วธ. กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย Soft Power ด้านวัฒนธรรม นำมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทยที่เป็นเอกลักษณ์มาพัฒนาเป็น Creative Culture เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้ดำเนินนโยบายนี้ด้วยการเปลี่ยนทุนทางวัฒนธรรมให้กลายเป็นทุนทางเศรษฐกิจผ่านการสร้างระบบนิเวศและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อเศรษฐกิจวัฒนธรรม การขับเคลื่อนนี้มุ่งเน้นที่หลักการสำคัญคือ “เชื่อมโยง-ร่วมมือ-ยั่งยืน” ในทุกมิติ โดยเน้นการนำวัฒนธรรมสร้างสรรค์และเอกลักษณ์ความเป็นไทยเผยแพร่ในกระแสโลกสู่สากล เพื่อยกระดับและพัฒนาความรู้ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ให้สร้างมูลค่าและสร้างรายได้ รวมทั้งการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาต่อยอดศิลปะ วัฒนธรรม และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อนำมาต่อยอดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทยในเวทีโลก


ด้วยกระแสความชื่นชอบฮิปโปแคระ “น้องหมูเด้ง” เป็นปรากฏการณ์ Soft Power สะท้อนเสน่ห์ไทยสู่สายตาโลก กระทรวงวัฒนธรรมจึงได้ร่วมกับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เปิดตัวโครงการ “Thai Cultural Content for Soft Power Presented by Moo Deng” เพื่อเป็นการส่งเสริมความเป็นไทยผ่านน้องหมูเด้ง ในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์สื่อเผยแพร่ความเป็นไทยสู่สากล ตอกย้ำบทบาทของ “หมูเด้ง” ฮิปโปแคระขวัญใจมหาชน จากกระแสความน่ารักที่แพร่กระจายบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่ได้รับการแชร์อย่างรวดเร็วจากคนไทยและทั่วโลก รวมถึงบรรดา Influencers และสำนักข่าวระดับโลกที่ให้ความสนใจนำเสนอเรื่องราวของน้องหมูเด้งอย่างต่อเนื่อง ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยในการสร้าง Content ที่กระชับและดึงดูด รวมถึงการใช้ Social Media ในการกระจายเนื้อหาที่เป็นจุดแข็งของไทย ทำให้ “หมูเด้ง” กลายเป็นสัญลักษณ์การสื่อสารความเป็นไทย ที่ทรงพลังและสามารถเชื่อมโยงกับผู้คนทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากการเปิดตัวโครงการแล้วยังมีกิจกรรมเสวนาที่มีผู้ร่วมเสวนาจากหลากหลายวงการมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมต่าง เกี่ยวกับกระแสหมูเด้งกับการนำความเป็นไทยสู่สากล ได้แก่ ลิเดีย ศรัณรัตน์ ดีน อินฟลูเอนเซอร์ นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ นายอรรถพล หนุนดี (เบนซ์) พี่เลี้ยงหมูเด้ง และนายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และมอบเกียรติบัตร “Thai cuteness : ตัวตึง ถึงไทย” ให้กับน้องหมูเด้ง ในฐานะผู้สื่อสารความเป็นไทยสู่สากล รวมถึงยังมีกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการประชาสัมพันธ์ด้วยสื่อนวัตกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เช่นสื่อในประเพณีลอยกระทง สงกรานต์ ตลอดจนกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมคุณค่ามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย สู่สายตานานาชาติ

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวด้วยว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้ วธ.จะเริ่มนำหมูเด้งเป็นสื่อกลางในการเชิญชวนให้คนไทยออกมาลอยกระทงถือเป็นหนึ่งพรีเซนเตอร์ ที่จะทำให้คนทั่วโลกได้รับรู้ และรู้จักประเพณีลอยกระทงของไทย จากนั้นจะมีการให้หมูเด้งมาโชว์ความน่ารักในเทศกาล ประเพณีอื่นๆ ของไทยต่อไป หรือตามเที่ยวตามรอยหมูเด้งและเยี่ยมญาติหมูเด้งที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ เช่น ขอนแก่น ศรีสะเกษ หมูเด้งดังไปทั่วโลก ความน่ารักไม่แบ่งอายุ จะเห็นว่าคนทุกเพศทุกวัยก็ชื่นชอบ ถือเป็นตัวแทนของไทยในการเผยแพร่ Soft Power ซึ่งตอนนี้ทราบว่ามีกว่า 100องค์กรทั้งภาครัฐเอกชน ติดต่อหมูเด้งร่วมกิจกรรมต่างๆ


ด้านนายอรรถพร ศรีเหรัญ ผอ.องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า พร้อมให้หมูเด้งเป็นพรีเซนเตอร์โดยไม่คิดค่าตัว ทั้งนี้ต้องยกให้คนที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูหมูเด้งในการนำเสนอพฤติกรรมต่างๆ ของฮิปโปแคระ ที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็น ผ่านโลกออนไลน์ ทำให้ความน่ารักของหมูเด้งโด่งดังไปทั่วโลก ทั้งยังสอดแทรกความเป็นไทย โดยตั้งชื่อว่า หมูเด้ง ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสนใจว่า คำว่า หมูเด้ง หมายถึงอะไรด้วย

นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า ต้องขอบคุณทีมงานที่เข้มแข็งของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่ทำให้หมูเด้ง เป็นตัวแทนสื่อสารความเป็นไทยได้อย่างเนียนๆ ทำให้คนชื่นชอบโดยที่ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด จึงร่วมมือกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียวในการเผยแพร่วัฒนธรรม ที่ผ่านมาจะใช้คนที่มีชื่อเสียงเป็นทูตวัฒนธรรม แต่หมูเด้งได้รับความนิยมความน่ารัก จึงชูให้เป็นพรีเซนเตอร์เผยแพร่วัฒนธรรมไทย ยกระดับเทศกาลลอยกระทง เป็น World Event ที่ทุกคนตั้งใจมา

เบนซ์ พี่เลี้ยงหมูเด้ง เล่าว่า ช่วงนี้หมูเด้งพักผ่อนเยอะ นอนเยอะ หมูเด้งวิ่งแค่ 30 นาที นอนเยอะกว่าวิ่ง ตอนนี้แตะต้องหมูเด้งไม่ได้เลย มีคนบอกว่าหมูเด้งจะน่ารักถึง 6 เดือน ซึ่งตอนนี้หมูเด้งอายุ 3 เดือนแล้ว ส่วนตัวมองว่าไม่ว่าจะกี่ปีหมูเด้งก็น่ารัก เป็นความน่ารักในแต่ละช่วงของเขา ฮิปโปตัวจะติดกันตลอดเวลา ทุกช่วงอายุคือความน่ารัก คือวิ่งตามแม่ตลอด ซึ่งช่วงนี้คนมาดูเยอะอยู่ ใครอยากมาดูหมูเด้งตอนตัวเล็กๆ ให้รีบมาช่วงนี้

ด้าน ลิเดีย ศรัณรัตน์ มองว่า เมืองไทย อาหาร คนรู้จักไปทั่วโลกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้หมูเด้งยิ่งทำให้คนรู้จักเมืองไทยมากขึ้นต้องขอบคุณพี่เลี้ยง ลงคอนเทนต์น่ารักของหมูเด้ง ทำให้มีผู้ติดตามจำนวนมากและอยากมาหาหมูเด้ง พ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกหลานมาเกิดการเรียนรู้เรื่องสัตว์ คุ้มค่าการมาชม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]

ทบ.ยันคุมตัว 18 ทหารเขมร ยึดหลักกฎหมายสากล

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบก แถลงโต้กัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติสากล ยืนยันควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีกัมพูชายื่นข้อเรียกร้องต่อทางการไทย เพื่อให้ส่งตัวทหารที่ถูกควบคุมตัวไว้กลับประเทศ ขอเรียนว่าฝ่ายกัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติในระบบของสากล ยืนยันการปฏิบัติของฝ่ายไทยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล ซึ่งเชื่อว่าประเทศพันธมิตรและองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ มีความเข้าใจ และไม่ได้มีความกังวลใดๆ อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง โดยเฉพาะการที่ฝ่ายไทยได้เปิดโอกาสให้องค์กรสากลที่เกี่ยวข้องสามารถประสานขอเข้าเยื่ยมชมได้ตลอดตั้งแต่วันแรกๆ ที่ฝ่ายไทยได้มีการควบคุมตัว   อย่างเช่นเมื่อ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีคณะผู้แทนจาก ICRC ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด้านการคุ้มครอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เจ้าหน้าที่โครงการของ ICRC และล่าม รวม 4 คน เพิ่งมาเยื่ยมชมไป จึงขอยืนยันว่าการควบคุมทหารกัมพูชาทั้ง 18 คนนั้น เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวา ไม่ใช่การควบคุมตัวอย่างผิดกฎหมายตามที่ กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้กล่าวอ้าง ทั้งนี้การถูกควบคุมตัวดังกล่าว จำเป็นต้องคงไว้ จนกว่าสถานะการณ์การหยุดยิงหรือสถานการณ์การสู้รบ จะมีความสมบูรณ์เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนแล้วเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด จะไม่หวนกลับมาทำการสู้รบกับฝ่ายไทยอีก ซึ่งเป็นไปตามแนวทางหลักสากล และเชื่อว่าด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชายังมีเรื่องสำคัญอื่น ที่ควรให้ความสำคัญอย่างมากด้วยเช่นกัน […]

ทหารกล้าเล่านาทีระทึก รอดตายจากระเบิดชายแดน

11 ส.ค.- ทหารกล้า เล่าเหตุการณ์ ลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา ร่วงใส่จุดที่กำลังพลอยู่พอดี จนได้รับบาดเจ็บ ทีมข่าวลงพื้นที่อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี บ้านของ สิบโทปรีชา เสือบัว อายุ 24 ปี หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็กหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เล่านาทีรอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะประจำการอยู่ในบังเกอร์ ได้ยินเสียงปืนครกจากฝั่งกัมพูชา จึงรีบถอยตัวออกครึ่งหนึ่งเพื่อให้ลูกน้องหลบเข้าไปด้านในบังเกอร์  แต่จังหวะนั้นกระสุนระเบิดตกใส่ทันทีจนร่างกระเด็นและหมดสติ เหตุระเบิดทำให้สิบโทปรีชา ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย ขณะปฏิบัติหน้าที่พร้อมเพื่อนทหารอีก 3 นาย สิบโทปรีชา ยังบอกอีกว่า “หากต้องบาดเจ็บอวัยวะส่วนไหน ก็ยอม แต่จะไม่ยอมเสียชาติ” พร้อมเผยว่าได้ติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ แม้ได้รับคำสั่งให้พักรักษาตัวก่อน แต่หากมีความจำเป็น เขาพร้อมกลับไปสู้เพื่อประเทศชาติทันที ทั้งนี้ ตัว สิบโทปรีชา และครอบครัวเชื่อว่า เป็นบารมี หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อยูร และหนังเสือ วัดพนมเศษเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ […]