ตำรวจขอเวลา 1 สัปดาห์ สรุปเหตุเพลิงไหม้ชุมชนย่านเยาวราช

กรุงเทพฯ 8 ก.ค.-เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนเยาวราช อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากวานนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วรอบหนึ่ง แต่ต้องถอนกำลัง เนื่องจากสภาพพื้นที่อันตราย


พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยว่าจากที่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนเยาวราช พบอุปสรรคก็คือ โครงสร้างอาคารโดยเฉพาะบ้านไม้ ยังคงมีลักษณะของการถล่มลงมา จนเป็นอันตรายแก่เจ้าหน้าที่ จึงได้ถอนกำลังออกมา ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจจุดที่คาดว่าเป็นต้นตอของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้

ดังนั้น เมื่อยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจบริเวณจุดต้นตอเหตุเพลิงไหม้ได้ จึงยังไม่สามารถได้ข้อสรุปว่า เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเกิดจากสาเหตุอะไร ถึงแม้ว่าตอนนี้ได้มีการตั้งข้อสันนิษฐานหลายข้อ ประกอบกับคำบอกเล่าของชาวบ้านที่ให้แก่พนักงานสอบสวนและภาพจากโดรนมุมสูง แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถฟันธงได้ ต้องได้เข้าไปถึงจุดต้นตอของเพลิงไหม้ก่อน ฉะนั้น ตอนนี้จึงยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากอะไร


ทั้งนี้ ได้ประสานกับทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพื้นที่ในการเร่งเก็บกวาดและสำรวจเศษซากอาคารต่าง ๆ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสามารถเข้าไปถึงจุดต้นตอของเหตุเพลิงไหม้ได้ โดยในวันนี้จะประสานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานในการลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมกันนี้ยังเปิดเผยอีกว่า ภายในสัปดาห์นี้จะสามารถได้คำตอบอย่างแน่นอนว่า เหตุเพลิงไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ เยาวราช เกิดจากอะไร

ด้านนางอัมพร อายุ 41 ปี หนึ่งในผู้ประสบภัยซึ่งมายืนรอคอยบริเวณปากซอย เพราะหวังว่าจะได้เข้าไปเก็บข้าวของในบ้านที่ได้รับความเสียหาย ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมีบ้านในชุมชนดังกล่าว 2 หลัง หลังหนึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น อยู่ฝั่งถนนทรงวาด อีกหลังหนึ่งอยู่บริเวณด้านหลังโพธิ์เพลสซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่อีกหัวมุมของชุมชน

ในคืนเกิดเหตุ ตนนั่งกินสังสรรค์อยู่กับเพื่อนที่บ้านด้านหลังโพธิ์เพลส ปรากฏว่า เห็นเปลวเพลิงโหมแดงขึ้นมาจากภายในชุมชน พร้อมกับได้ยินเสียงดังคล้ายประทัด จึงตั้งใจที่จะวิ่งเข้าไปเก็บของที่บ้านไม้ แต่เข้าไปไม่ทัน เพราะเปลวเพลิงโหมกระหน่ำเป็นอย่างมาก จึงได้แต่วิ่งเอาตัวรอดออกมาได้จากทางออกชุมชนอีกฝั่งหนึ่ง แม้ว่าไม่สามารถมาเก็บข้าวของที่บ้านได้ไม่ทัน แต่โชคดีที่อาโกของตน ซึ่งพักที่บ้านไม้หลังนั้นออกมาได้ทัน


นางอัมพร บอกทั้งน้ำตาอีกว่า ตนยังโชคดีที่มีบ้านอีกหลัง ที่สามารถพักอาศัยได้ แต่ก็รู้สึกสงสารรุ่นน้องหลายคนที่บ้านพังเสียหายไปกลับเปลวเพลิงและต้องย้ายไปพักอาศัยที่อื่น ตอนนี้สิ่งที่รู้สึกวิตกกังวลคือทรัพย์สินบางส่วนที่ยังอยู่ในบ้าน อย่างน้อยโชคดีที่ตนเห็นภาพจากมุมสูงพบว่า บ้านไม้ได้รับความเสียหายแค่ชั้น 2 แต่ชั้น 1 ไม่เป็นอะไร นอกจากนี้ สัตว์เลี้ยงของตนคือน้องแมว ก็พบว่าปลอดภัย แต่เนื้อตัวมอมแมมและยังคงวิ่งหากินอยู่ในบริเวณบ้านไม้

นางอัมพร กล่าวว่า ตนพักอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว ไม่เคยมีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น โดยตนพักอาศัยในลักษณะของการเช่าบ้านรายเดือน ที่ผ่านมาตนไม่เคยได้ยินเจ้าของบ้านมาพูดในลักษณะของการเวนคืนบ้านหลังดังกล่าว เพื่อนำที่ดินไปทำประโยชน์เชิงพาณิชย์อื่น ๆ ดังนั้น จึงมองว่าเป็นไปไม่ได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะของการสร้างสถานการณ์เพื่อนำที่ดินไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์หรือเผาไล่ที่

ส่วนจุดต้นเพลิงนั้น ตนก็ไม่ทราบแน่ชัดกว่านี้ว่า จุดต้นพลิงอยู่ตรงไหน แต่เท่าที่ตนทราบ ไม่น่าใช่ร้านขายขนมที่มีรายงานข่าวว่าเป็นจุดต้นเพลิง อีกทั้งก่อนเกิดเหตุ ตนก็ไม่ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดหรือถังแก๊สดังขึ้น ได้ยินเพียงแค่เสียงดังคล้ายประทัดและมีชาวบ้านบอกว่าได้ยินเสียงคล้ายฟ้าผ่าเท่านั้น.-412-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”