ระยอง 27 เม.ย.-เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย จ.ระยอง ก่อนที่นายกฯ จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนยังคงระดมกำลังหล่อเย็นพื้นที่โรงงาน ด้านตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำหุ่นยนต์ 4 ขา ช่วยตรวจจับสัญญาณความร้อน
โดยวันนี้ซึ่งนับเป็นวันที่ 6 เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย พบว่าภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายขึ้นมาก วันนี้ยังไม่พบการปะทุของเพลิง แต่เจ้าหน้าที่ยังต้องทำการหล่อเย็นในจุดที่พบความร้อน หรือจุด hot spot โดยใช้น้ำและสาร F500 โดยเฉพาะโกดังที่ 3 ที่มีอะลูมิเนียม ดรอส จากการใช้โดรนตรวจจับความร้อนบินสำรวจ ยังพบมีบางจุดที่อุณหภูมิสูงกว่า 200 องศาเซลเซียส และยังพบกลุ่มควันขึ้นมาจากกองอะลูมิเนียม เจ้าหน้าที่ต้องใช้สารF-500 เข้าไปฉีดลดอุณหภูมิอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุมให้อุณหภูมิต่ำกว่า 100 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันไฟปะทุ ส่วนที่โกดัง 4 โกดัง 5 ล่าสุดดับไฟได้หมดแล้ว มองด้วยตาเปล่าไม่ปรากฏเห็นกลุ่มควันลอยขึ้นมา
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทราบว่า แผนการในวันนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องของการรักษาอุณหภูมิในพื้นที่ไฟไหม้ไม่ให้เกิน 100 องศาเซลเซียส และในวันนี้จะมีการประชุมเพื่อทำแผนตัดแยกกองอะลูมิเนียมดอสกองใหญ่ออกจากกัน เพื่อควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวานได้พยายามทดลองใช้ปูนขาว ซีลปิดทับกองอะลูมิเนียมดรอสในโกดังที่3 แต่ก็ไม่เป็นผลเท่าที่ควรเนื่องจากพื้นที่มีความร้อนสูง และด้านล่างมีอุณหภูมิสูง ถูกไฟหลอมจนเป็นของเหลว และเกิดการยุบตัว จึงทำให้ไม่สามารถซีลปิดทับกองอะลูมิเนียมดรอสที่ยังไม่ติดไฟได้ และที่สำคัญต้องคำนึงถึงโครงสร้างของหลังคาเนื่องจากที่โกดังที่สามขณะนี้หลังคายุบตัวลงมาครึ่งนึงแล้วส่วนที่ยังเหลืออยู่ยังไม่พังลงมาเพราะมีเศษกล่องอะลูมิเนียม ดรอดคำยันอยู่ หากเคลื่อนย้ายกองอย่างไม่ถูกวิธีโครงสร้างหลังคาที่เหลืออาจพังลงมาทั้งหมด ยิ่งจะทำให้การทำงานเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น
ทางด้าน เล็ก ฝันเด่น จรรยาธนากร ที่ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน เข้ามาช่วยดับเพลิงโกดังเป็นรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า เมื่อวานลุยฉีดน้ำที่โกดัง5 ต่อเนื่องจนกระทั่งถึงเวลา 04.00 น. แต่เกิดลมเปลี่ยนทิศควันฟุ้งกระจายใส่ทีมดับเพลิงจึงยุติชั่วคราว และเช้าวันนี้ก็มาลุยฉีดน้ำดับต่อ แต่เมื่อหยุดสเปรย์น้ำ ก็เกิดควันไฟขึ้นเป็นจุดๆ ซึ่งคิดว่าน่าจะจบตั้งแต่เมื่อคืนแต่ไม่จบ สาเหตุที่ยังมีควันไฟ และพร้อมจะปะทุตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลว่าใต้พื้นล่างมีช่องสี่เหลี่ยม ขนาดตั้งแต่ 1 เมตรคูณ 1 เมตร หลายบ่อซึ่งเป็นบ่อเก็บสารเคมีสารกัดกร่อนที่ไม่สามารถเก็บในถังได้ ประกอบกับพื้นที่ข้างล่างมีสารเคมีหลายชนิดทับถมกัน และอุปสรรคของการดับไฟ หลักๆ คือเรื่องของการนำน้ำเข้าดับไฟ ล่าช้า เพราะแหล่งน้ำอยู่ไกล
ส่วนบริเวณวัดหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้นำหุ่นยนต์โรบอท 4 ขา หรือโดรนภาคพื้นชื่อ ‘วรนภา’ มาช่วยในการปฏิบัติการดับเพลิงครั้งนี้ด้วย ซึ่งจะมาช่วยตรวจจับสัญญาณความร้อน นอกจากนี้ยังทีมแพทย์ รพ.บ้านค่าย รพ.ระยอง มาตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจสุขภาพประชาชน และมีหน่วยงานต่างๆ มาเตรียมความพร้อมรอต้อนรับนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์ในช่วงบ่าย.-สำนักข่าวไทย