วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) 8 เม.ย.- นายกฯ สักการะวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) บอกในสายตา จ.นครศรีธรรมราช ไม่เคยเป็นเมืองรอง ชี้ “เพชรก็คือเพชร” ขอนับหนึ่งขุดศักยภาพเมืองคอน หนุนเปิดสนามบินระหว่างประเทศ ขยายรันเวย์รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ ลั่นมาครั้งแรก แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย อีก 6 เดือน กลับมาตรวจการบ้าน ขณะที่ประชาชนแห่รับแน่น
ภารกิจสุดท้ายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการลงพื้นที่จังหวัดภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย. 2567 ได้เดินทางมายังวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกราบนมัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ (อภิชิต พุทฺธสโร น.ธ.เอก พธ.ม.) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ รองรองเจ้าคณะอำเภอสิชล พร้อมสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาส
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะมาดูแลจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ใช่เฉพาะการท่องเที่ยว แต่จะดูแลเรื่องการคมนาคมด้วย ซึ่งมาที่วัดเจดีย์ไม่คิดว่าจะเจริญขนาดนี้ มีผลพวงทางเศรษฐกิจมากมาย ทำให้ความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมศาสนาก็ยังมีช่องให้ทำอีกมาก ซึ่งการลงมาพื้นที่ครั้งนี้นอกจากมาดูแลในเรื่องเส้นทางคมนาคมการขยายเส้นทางการบินและการท่องเที่ยวแล้วก็จะมาดูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศาสนาด้วย
จากนั้น พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ (อภิชิต พุทฺธสโร น.ธ.เอก พธ.ม.) เจ้าอาวาส มอบเหรียญไอ้ ซึ่งรุ่นกฐิน 59 ไม่มีการจำหน่ายให้บูชา ให้แก่นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นสิริมงคล
ก่อนที่นายเศรษฐาได้สักการะพร้อมปิดทองไอ้ไข่ เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางมาเยือนจังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งนี้
จากนั้นนายเศรษฐา ได้พบปะกับประชาชนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมรับฟังรายงานและรับชมวิดิทัศน์จากนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรี โดยมีประชาชนมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก พร้อมกับชูป้ายต้อนรับนายกฯ
ต่อมานางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะ สส.นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ขึ้นกล่าวรายงานนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเพชรเม็ดงามที่อยู่แดนใต้ ที่พร้อมจะให้นายกรัฐมนตรีเจียระไน กลายเป็นแหวนเพชรเม็ดงาม ซึ่งนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ โดยคาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะยกระดับและพัฒนาจังหวัดนครฯ ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
โดยนายกนัฐมนตรี กล่าวว่า กราบสวัสดีพี่น้องเมืองคอนที่รักทุกคน ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลได้ 7 เดือนเต็ม ตั้งแต่รู้จักรัฐมนตรีปุ้ย (น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ) ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดเวลาเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศไทย แต่เหนือสิ่งอื่นใดตนว่าเรามาดูที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งรัฐมนตรีปุ้ยเองก็ชวนให้ตนมาดูว่าเราจะช่วยพัฒนายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องทุกคนได้อย่างไร เราทำมากันกันมา 7 เดือนแล้วเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีรัฐมนตรีหลากหลายกระทรวง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาก็มาด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรามาดูแลมายืนยันว่า “เพชรยังไงก็เป็นเพชรเสมอ” เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและจะเดินหน้าต่อไปที่จะพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราชให้เป็นเมืองหลักสมกับที่มีวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่มาที่นี่อยากจะมามากกว่า 1 วัน แต่หากรอเวลาคงใช้เวลาอีกนาน เชื่อว่าแม้ว่ามาแค่วันเดียว ก็พอจะเห็นปัญหา และกลับไปทำการบ้าน อย่างแรกเลยก็คือสนามบิน ตนเห็นด้วยว่า นครศรีธรรมราชมีศักยภาพสูงยังไงก็ต้องเปิดให้การเดินทางระหว่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีทั้งนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์และมาเลเซียมาท่องเที่ยวที่จังหวัดนี้เยอะมาก เรายังไม่มีการเตรียมความพร้อมเรื่องสนามบิน แต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมก็จะกลับไปทำการบ้าน ไม่ใช่แค่เตรียมเปิดระหว่างประเทศแต่ยังหมายถึงการขยายรันเวย์ให้ใหญ่ขึ้นรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นและไม่ใช่ให้ความสำคัญแค่เรื่องการท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่วันนี้จะนำเรื่องการท่องเที่ยวเกี่ยวกับศาสนาไปศึกษาและขยายผลต่อเพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนรู้จักจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ดีขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเกษตรก็เป็นเรื่องสำคัญตนทราบมาว่าที่นี่มีการปลูกยางพาราเยอะมากซึ่งในช่วง7เดือนที่ผ่านมาราคายางพาราขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตนก็หวังว่าเราจะช่วยกันทำงานต่อขึ้นเพื่อรักษาระดับราคายางให้สูงแบบนี้ต่อไป
ขณะที่ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่ามีอยู่หลากหลายมิติ วันนี้ท่านมีผู้แทนที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กแต่ใจใหญ่ได้มาดูแลกระทรวงที่สำคัญคือกระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นกระทรวงที่ใหญ่กระทรวงหนึ่ง และท่านเองก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของประเทศเพราะฉะนั้นตนมั่นใจว่าจังหวัดนี้จะถูกพัฒนาไปสู่ศักยภาพที่สามารถไปถึงได้
และยังมีอีกหลายมิติที่รัฐบาลยังทำอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้หนี้นอกระบบ ตนอยากจะขอความกรุณาว่า ถ้าท่านใดเป็นหนี้นอกระบบ เรามีระบบในการเข้ามาแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่กับลูกหนี้พบกัน โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครองเข้ามาช่วยดูแลทำให้เรามีการแก้ไขปัญหาหนี้สินได้ ก็อยากจะวิงวอนว่าถ้าหากท่านมีปัญหาเหล่านี้ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ อย่าได้กลัวอิทธิพล บ้านเมืองมีขื่อมีแป เพราะฉะนั้นรัฐบาลอยากดูแลท่านทำงานมาเหนื่อยแทบตายต้องมาจ่ายดอกเบี้ยมหาโหด ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องอะไรที่พวกเราทุกคนรับไม่ได้ก็อยากให้หมดไปจากสังคมไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐมนตรีการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวไปว่าเป็นเมืองรองมาอยากให้เป็นเมืองหลักแต่ตนอยากจะบอกว่าจังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่ใหญ่และมีศักยภาพสูงมาก มีสส.อยู่ถึง 10 ท่าน เป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ จริงๆแล้วไม่เคยเป็นเมืองรองแต่เป็นเมืองหลักที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากรัฐบาลให้มากขึ้น ทำงานมาแล้ว 7 เดือนรวบรวมข้อมูลมาเยอะมากแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไปเราเริ่มนับหนึ่งดีกว่าว่าเราจะขุดศักยภาพของจังหวัดนครศรีธรรมราชมามากน้อยขนาดไหน การเยือนทางนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายไม่เกิน 6 เดือน ตนจะมาอีกเพื่อมาดูความคืบหน้าการทำงานของทุกคน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ซึ่ง ประชาชนบางส่วนได้ถือป้ายข้อความต้อนรับนายกรัฐมนตรี เช่น “ชาวนครศรีฯยินดีต้อนรับ”, “ขอราคายางแบบนี้ตลอดไป”, “โหมเราขอต้อนรับท่านนายก”, “เป็นกำลังใจมากๆนายกนิด” และถือว่าเป็นการจบภารกิจการลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร .-316 -สำนักข่าวไทย