กรุงเทพฯ 18 มี.ค.-“บิ๊กต่อ” ยืนยันหมายเรียกติดหน้าบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” คดีฟอกเงินเป็นไปตามหลักฐาน ขณะเดียวกันพร้อมรับสภาพหากเส้นเงินมาถึงตน เชื่อคดีแล้วเสร็จก่อนตนเกษียณ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงกรณีที่เมื่อวานนี้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง นำหมายเรียกในคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ไปติดหน้าบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งเมื่อวานนี้เป็นการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ที่มีกำหนดให้ไปรายงานตัวในวันที่ 21 มีนาคมนี้ ที่ สน.เตาปูน ซึ่งเป็นไปตามสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาว่าจะเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่ถ้าหากออกหมายเรียกครบ 2 ครั้ง แล้วยังไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา ขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาออกหมายจับ
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า การออกหมายเรียกครั้งนี้มิชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากการสอบสวนไม่ถูกต้อง เพราะพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจ เนื่องจากสำนวนคดีอยู่ที่ ป.ป.ช.แล้วนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่าคดีที่ ป.ป.ช.ตรวจสอบเป็นคดีเว็บพนันมินนี่ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับคดี BNK Master ในพื้นที่ สน.เตาปูน แต่ก็คดีนี้ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาสามารถปฏิเสธหรือโต้แย้งได้
ส่วนการตั้งหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี BNK Master ในพื้นที่ สน.เตาปูน คดีนี้แยกออกจากคดีเว็บพนันออนไลน์ของมินนี่ที่สำนวนส่งไปที่ ป.ป.ช.โดยมี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ที่แต่งตั้งมาตั้งแต่อดีต ผบ.ตร.คนก่อน ซึ่งถ้า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บริสุทธิ์ก็คือบริสุทธิ์ ส่วนคดีนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานสอบสวนตามที่เป็นข่าว โดยจะกลับไปพิจารณาว่าการตั้งหัวหน้าพนักงานสอบสวนไม่จำเป็นต้องเป็น “พล.ต.อ.” เนื่องจากจะเป็นข้อครหา เพราะแต่ละคนก็เป็นแคนดิเดตที่ชิงตำแหน่ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็จะต้องส่งกลับไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้พิจารณา
ส่วนหมายเรียกอีก 1 ฉบับ ที่พนักงานสอบสวนส่งไปให้ตนเองในฐานะผู้บังคับบัญชาทราบ สำนักงานกฎหมายและคดีจะมีการรายงานให้ทราบในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งตามขั้นตอนหาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกออกหมายเรียกและถูกออกหมายจับก็จะต้องมารายงานตัวในฐานะต้องคดีอาญา หลังจากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อมีผลก็จะสั่งให้พักราชการ โดยเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะแล้วเสร็จก่อนที่ตนจะ เกษียณอายุราชการภายในเดือนกันยายนนี้
ส่วนที่ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะออกมาแฉเส้นทางการเงิน โดยอ้างว่าจะสะเทือนไปทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่าถ้าพยานหลักฐานถึงใครก็ต้องรับสภาพ หากชี้แจงไม่ได้ รวมถึงถ้าเส้นเงินถึงตนก็ต้องรับสภาพเช่นเดียวกัน ซึ่งพยานหลักฐานทุกอย่างพิสูจน์ได้ตามวิทยาศาสตร์ และมองว่าสำนักงานแห่งตำรวจแห่งชาติจะแตกได้อย่างไร จะต้องดำรงอยู่ไว้ ส่วนใครจะผิดก็ว่าไปตามความผิด
ส่วนประเด็นที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามภารกิจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มองว่าเป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่แล้ว เพราะดูแลงานด้านความมั่นคง
นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังกล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก่อเหตุแย่งปืนตำรวจตำรวจจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนิน คดีกับนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ราย อย่างเด็ดขาด รวม 5 ข้อหา และให้ดำเนินการเพิกถอนวีซ่าทันที โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจะแถลงข่าวในคดีดังกล่าว. -414-สำนักข่าวไทย