คาดพายุ “โคอินุ” ถึงไต้หวัน 5 ต.ค. ไทยเฝ้าระวังฝนต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 3 ต.ค.- กรมอุตุฯ คาดพายุไต้ฝุ่น “โคอินุ” เคลื่อนถึงทางตอนใต้ของเกาะไต้หวัน 5 ต.ค. จากนั้นจะเคลื่อนตัวต่อไปยังด้านตะวันออกของจีน ไทยยังมีทิศทางลมแปรปรวนและฝนตกต่อเนื่อง จากหย่อมความกดอากาศต่ำ ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่าน สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำหลากดินถล่ม รวมถึงน้ำล้นตลิ่งลุ่มน้ำวัง ลุ่มน้ำยม และลุ่มน้ำเจ้าพระยาช่วง 3-7 ต.ค.นี้


นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ในช่วงวันที่ 3- 5 ต.ค. หย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับร่องมรสุมได้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ฝนยังเกิดขึ้นได้ตามแนวร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำ จึงต้องระวังฝนหนักบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยกทม. และปริมณฑลต้องเพิ่มการเฝ้าระวังเนื่องจากเป็นพื้นที่เปราะบางเกี่ยวกับการระบายน้ำ

ในช่วง 1-2 วันนี้ คลื่นลมมีกำลังอ่อนถึงปานกลางโดยเฉพาะทะเลอันดามัน คลื่นสูง 1-2 เมตร


จากนั้นระหว่างวันที่ 6 -12 ต.ค. ร่องมรสุมจะขยับขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นบ้าง โดยตกหนักบางแห่ง ระยะนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ทิศทางลมยังแปรปรวนและสภาพอากาศมีความแปรปรวนสูง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเริ่มมีมวลอากาศเย็นแผ่ซึมลงมาปกคลุมแล้ว 

สำหรับ พายุไต้ฝุ่น “โคอินุ (KOINU)” ในมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปถึงตอนใต้ของเกาะไต้หวันในวันที่ 5 ต.ค. หลังจากนั้นเคลื่อนตัวตามแนวขอบชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศจีน แถบมณฑลกวางตุ้งและเกาะฮ่องกง คาดว่า จะอ่อนกำลังลงตามลำดับเนื่องจากมวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีน ดังนั้นพายุนี้จะไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย แต่ฝนที่เกิดขึ้นมาจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย และหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ รวมถึงจากลมพัดเข้าสู่พายุ ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจะติดตามการเคลื่อนตัวของพายุอย่างใกล้ชิด

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเฝ้าระวังน้ำหลากดินถล่มและน้ำล้นตลิ่งในช่วงวันที่ 3 – 7 ต.ค. จากฝนที่ตกต่อเนื่องด้วยอิทธิพลของร่องมรสุม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และหย่อมความกดอากาศต่ำดังกล่าว โดยมีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำหลากดินถล่มได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตาก จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดลำพูน จังหวัดแพร่ และจังหวัดลำปาง


สำหรับพื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำดังนี้

  • แม่น้ำวังได้แก่ จังหวัดตาก
  • แม่น้ำยมได้แก่ จังหวัดสุโขทัย
  • แม่น้ำเจ้าพระยา ต้องเฝ้าระวังพื้นที่นอกคันกั้นน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยคาดการณ์จะมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น อยู่ในเกณฑ์ 1,200 – 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.00 – 1.50 เมตร.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว ด้านแม่ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง แจงเป็นเงินบุญ ปี 64 ขณะที่ “สามารถ” เผย “อยากพูด แต่พูดไม่ได้“

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้