สหรัฐอเมริกา 19 ก.ย. – รองเลขาฯ นายกฯ แจงเหตุต้องเช่าเหมาลำเครื่องการบินไทย ให้นายกฯ เดินทางไปร่วมประชุมที่สหรัฐ หลังเปรียบเทียบราคาแล้ว กองทัพอากาศแพงกว่า ภริยาร่วมคณะเพราะมีภารกิจในส่วนของคู่สมรส บุตรสาวไปช่วยงานแม่
น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ชี้แจงกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เช่าเครื่องบินเหมาลำ วงเงิน 30 ล้านบาท ของบริษัทการบินไทย เดินทางร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยยืนยันว่าได้เปรียบเทียบราคาการเช่าเหมาลำจากหลายปัจจัย โดยราคาที่กองทัพอากาศเสนอการเช่าเหมาลำเครื่องบิน Aisbus 350 ในราคา 32 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่า และที่นั่งแบบ First Class มีประมาณ 30 ที่นั่ง ส่วน Business Class มีเก้าอี้ที่สามารถใช้งานได้เพียง 15 ที่นั่ง และกองทัพอากาศไม่สามารถยืนยันได้ว่าหากกองทัพอากาศเกิดติดภารกิจเร่งด่วนจะไม่สามารถให้บริการรัฐบาลได้ แม้กระทั่งหากมีภารกิจเร่งด่วนเพียง 1 วันล่วงหน้า กองทัพก็ไม่สามารถให้บริการรัฐบาลได้
“สาเหตุที่ต้องใช้เครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ เนื่องจากทางการสหรัฐมีรูปแบบการอารักขาความปลอดภัย Secret Service ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีเดินทางมาด้วยเครื่องยนต์พาณิชย์แบบปกติ จะทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางร่วมมาด้วยอาจไม่พอใจ เนื่องจากเครื่องบินจะต้องจอดบริเวณกลางสนามบินและจะมีพิธีต้อนรับจากทางการสหรัฐ ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร จะทำให้ผู้โดยสารอื่นต้องรออย่างน้อย 1 ชั่วโมง จึงจะออกจากเครื่องได้” น.ส.นัทรียา กล่าว
ส่วนประเด็นเรื่องค่าอาหารบนเครื่องบิน รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บริษัทการบินไทยคิดราคาค่าอาหารบนเครื่องบินปกติ ไม่ใช่ราคาพิเศษกว่าราคาทั่วไป ซึ่งต้องเข้าใจว่าอาหารที่ต้องเสิร์ฟบนเครื่องบิน เป็นอาหารที่ผ่านวิธีกลั่นกรองคุณภาพอาหาร รวมถึงความสะอาด อาหารจึงมีราคาที่สูง ทั้งนี้ ค่าอาหารเมื่อเฉลี่ยต่อคนแล้วจะตกอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท สำหรับ 50 คน และเฉลี่ยต่อมื้อ ต่อคน สำหรับการเดินทางไป-กลับ จะประมาณคนละ 3,000 บาท
น.ส.นัทรียา ยืนยันว่า การเดินทางครั้งนี้ไม่มีนักธุรกิจร่วมคณะนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา และ น.ส.ชนัญดา ทวีสิน บุตรสาว ร่วมคณะด้วย กรณีบุตรสาวชำระค่าบริการโดยสารครบทุกอย่างตามเกณฑ์ที่สายการบินกำหนด โดยใช้เงินส่วนตัว ส่วนภริยานายกรัฐมนตรี ทางการสหรัฐอเมริกาส่งคำเชิญให้คู่สมรสของผู้นำประเทศเดินทางร่วมด้วย เนื่องจากจะมีภารกิจของคู่สมรส เช่น เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์บริการผู้สูงวัยของสหรัฐ และจะไปเยี่ยมชีวิตชุมชนชาวไทย โดยบุตรสาวจะมาช่วยในภารกิจส่วนนี้.-สำนักข่าวไทย