ปราจีนบุรี 14 มี.ค. – ปราจีนบุรีผวา วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียมหายจากโรงไฟฟ้า ผู้ว่าฯ ขอให้ประชาชนสบายใจ เนื่องจากความรุนแรงไม่มาก แต่ขอให้ผู้พบเห็นแจ้งเบาะแสจนนำกลับมาได้ บริษัทมีเงินรางวัลให้ 5 หมื่นบาท
นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นำผู้แทนที่เกี่ยวข้องจากสำนักงานปรมานูเพื่อสันติ บริษัท NPS และสาธารณสุขจังหวัด แถลงข่าวกรณีวัสดุกัมมันตรังสีของโรงไฟฟ้า NPS ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม 304 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หายไป เมื่อวันที่10 มีนาคม เกรงว่าอาจถูกนำออกไปและอาจไปอยู่ในร้านรับซื้อของเก่า โดยได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมออกติดตามแต่ยังไม่พบ หากคนได้ไปรู้เท่าไม่ถึงการณ์นำไปหลอมหรือเผาอาจเป็นอันตราย อีกทั้งอายุของวัสดุดังกล่าวมีอายุอีก 300 ปี แต่หากไม่มีใครไปทำอะไรก็จะเสื่อมสลายไปตามอายุ ด้านเลขาสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ ขอให้สื่อนำเสนอไปถึงผู้ที่นำไป จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ให้นำมาคืนเพราะนอกจากจะไม่ต้องพะวงเรื่องอันตรายแล้ว ยังจะได้รับเงินค่านำมาคืน 50,000 บาท
ขณะเดียวกัน มีการออกเอกสารชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด ในการตรวจพิสูจน์และค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ของบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด สูญหาย ด้วยว่า บริษัทฯ ดังกล่าว ตั้งอยู่ใน ในต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ ประกอบธุรกิจประเภท ไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ และระบบการปรับอากาศ โดยให้บริการด้าน การจ่ายไฟฟ้า ติดตั้งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 จำนวน 14 ชิ้น ห่อหุ้มด้วยท่อเหล็กกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ติดตั้งใช้งานเมื่อปี 2538
สรุปสถานการณ์ วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สูญหาย
- 11 มีนาคม 66 เวลา 23.00 น. ปภ.จังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่าวัสดุกัมมันตรังสีได้สูญหายจากบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด
- 13 มีนาคม 66 จัดประชุมหารือ พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาการตรวจพิสูจน์และค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหาย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีเป็นประธาน
จากการรวบรวมข้อมูลได้ความว่ามีวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย ประมาณ 23 ก.พ.66 บริษัทได้สอบถามพนักงานขับรถที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทราบว่าได้ยินเสียงดังมากเหมือนมีโลหะตกลงพื้น และไม่คิดว่าเป็นวัตถุอันตราย ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ติดตั้งอยู่บนถังไซโลเก็บขี้เถ้า มีความสูงจากพื้นดินประมาณ 16-17 เมตร คาดว่าจะตกอยู่ในพื้นที่ 200 ตารางเมตร จากจุดที่มีการติดตั้ง มีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอกมีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กก. และมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี และมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ โดยวัสดุกัมมันตรังสีผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 28 ปี แนวทางแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สูญหาย
13 มีนาคม 2566 บริษัทฯ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินภายในโรงงาน และจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 50 คน โดยมีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติให้การสนับสนุนการปฏิบัติ เพื่อดำเนินการค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหาย ในพื้นที่โรงงานทั้งหมด ผลการตรวจสอบไม่พบวัสดุกัมมันตภาพรังสีที่สูญหายภายในโรงงาน ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า อาจมีการนำวัสดุกัมมันตภาพรังสีออกนอกโรงงานไปแล้ว
14 มีนาคม 2566 ชุดปฏิบัติการตรวจสอบวัสดุสูญหาย โดยเจ้าหน้าที่จากอำเภอศรีมหาโพธิ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และบริษัทฯ ได้ออกค้นหาและตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือวัดทางรังสีในพื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เช่น ร้านขายของเก่า ร้านรับซื้อเศษโลหะมือสอง เป็นต้น
การเฝ้าระวังด้านสุขภาพของประชาชน
วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหาย เป็นวัสดุที่มีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็ก โดยวัสดุกัมมันตรังสีจะอยู่ในชั้นในสุด หากยังอยู่ในสภาพเดิมจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
กรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหาย มีการถอดประกอบหรือชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มจนทำให้วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเปลือยเปล่า จะมีรัศมีการแผ่รังสีออกจากวัสดุกัมมันตรังสีประมาณไม่เกิน 1-2 เมตร
หากมีการสัมผัสวัสดุกัมมันตรังสีโดยตรง จะทำให้ผู้สัมผัสเกิดผื่นแดง หรือเป็นแผลไหม้บริเวณที่สัมผัสวัสดุกัมมันตรังสี จากการประเมินสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหายได้หลุดออกจากเครื่องกำบัง ดังนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ หากท่านใดพบเห็นวัตถุดังกล่าว โปรดแจ้งกลับมาที่คุณอารีย์ จักษ์ตรีมงคล ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 085-8350190 (ตลอด 24 ชั่วโมง) สำหรับผู้ที่ชี้เบาะแสจนสามารถนำวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหายกลับมาได้ จะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท .-สำนักข่าวไทย