ตั้งสอบวินัยร้ายแรง 4 ตร. เอี่ยวนำขบวนสาวจีน

กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – ผบ.ตร. สั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญา 4 ตำรวจ เอี่ยวนำนักท่องเที่ยวจีน พร้อมตั้งคณะทำงานศึกษาสภาพปัญหา วางกฎเหล็กให้ผู้บังคับบัญชาร่วมรับผิดด้วย


เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2566 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฏคลิปภาพเคลื่อนไหวตามสื่อสังคมออนไลน์ และสื่อมวลชนที่มีข้าราชการตำรวจ อำนวยความสะดวก และใช้รถติดสัญญาณไฟวับวาบ นำนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โฆษก ตร. กล่าวว่า “หลังจากที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการด่วนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ให้จเรตำรวจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว เป็นข้าราชการตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 จำนวน 2 นาย กองบังคับการตำรวจจราจร จำนวน 2 นาย โดยได้ใช้รถส่วนตัวติดสัญญาณไฟวับวาบและเครื่องหมายโล่เขน


สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายเป็นความผิดอาญาและมีมูลเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจต่างสังกัดกันร่วมกันกระทำความผิด ผบ.ตร. จึงได้มีคำสั่งที่ 68/2566 ลงวันที่ 27 ม.ค. 66 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรง ส่วนการดำเนินการทางอาญา ได้ส่งเรื่องให้ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินการอีกส่วนหนึ่งแล้ว พร้อมทั้งให้ต้นสังกัด สั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นาย ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำ ศปก. โดยให้พ้นจากหน้าที่เดิม

โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า “ เพื่อวางมาตรการป้องกันมิให้เหตุการณ์ในทำนองดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งที่ 69/2566 ลงวันที่ 17 ม.ค. 66 แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมสภาพปัญหาศึกษาวิเคราะห์ ระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจน โดยแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร่วมกับตำรวจหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงาน แล้วรายงานผลให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทราบ ภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป

ทั้งนี้ จะเห็นว่า ตร.ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง และรวดเร็ว ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งการดำเนินการทางอาญา วินัย กับตำรวจที่กระทำความผิด พร้อมกับวางมาตรการไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการกระทำของบุคคล ส่วนไหนที่ไม่ดี ต้องลงโทษแก้ไข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดย ผบ.ตร.เน้นย้ำว่า ต่อไปจะวางมาตรการ กำกับดูแลป้องกันเข้มข้นไม่ให้เกิดขึ้นอีก หากเกิดขึ้น นอกจากตัวตำรวจแล้ว ผู้บังคับบัญชาตัองร่วมรับผิดชอบด้วย” .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ บุกตรวจโกดังเก็บพลาสติกไฟไหม้สมุทรสาคร

“ทีมสุดซอย” ขยายผลตรวจโรงงานรีไซเคิลพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุไฟไหม้ พบเปลือกหุ้มสายไฟหลอมเป็นเม็ดพลาสติก มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท อุตสาหกรรมจังหวัดฯ สั่งหยุดกิจการทันที พร้อมยึดใบอนุญาต ฟันข้อหาตั้ง-ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต

สนาม อบจ.ภูเก็ต แข่งขันเดือด คนทยอยใช้สิทธิ

ชาวภูเก็ตทยอยเข้าคูหาเลือกตั้ง อบจ. หลายฝ่ายจับตามองเป็นพิเศษ เพราะการแข่งขันดุเดือด ขณะที่ กกต. ตั้งเป้าผู้ใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 65