ภูมิภาค 23 ม.ค. – อุบัติเหตุรถตู้เสียหลักพุ่งตกร่องกลางถนน บนถนนมิตรภาพ ช่วงอำเภอสีคิ้ว เสียชีวิต 11 ราย เบื้องต้นคาดว่าขณะเกิดเหตุรถพุ่งชนเครื่องกั้นทางจนถังน้ำมันฉีกขาด เมื่อมีประกายไฟ ทำให้เพลิงลุกไหม้
ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถตู้พุ่งชนเครื่องกั้น หรือการ์ดเลน ตกร่องกลางถนน บนถนนมิตรภาพขาเข้า ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จนไฟลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิต 11 ราย เมื่อเช้าวานนี้ ล่าสุดเช้านี้ที่โรงพยาบาลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ทางมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ได้เตรียมรถตู้ 5 คัน เคลื่อน 11 ร่างไปที่โรงพยาบาลตำรวจ คาดการณ์ว่าจะใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้โรงพยาบาลตำรวจตรวจอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต โดยญาติผู้เสียชีวิต ส่วนหนึ่งไปรออยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว มีสื่อมวลชนมาเฝ้าสังเกตการณ์จำนวนมาก
พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.สีคิ้ว เปิดเผยว่า การนำศพทั้ง 11 ร่างไปตรวจอัตลักษณ์ที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากผู้เสียชีวิตทั้งหมดไม่สามารถที่จะจดจำร่างและใบหน้าได้ จึงต้องมีการนำ DNA ของญาติและผู้เสียชีวิตมาเปรียบเทียบให้ตรงกัน เพื่อจะนำไปบำเพ็ญกุศลศพ คาดใช้เวลา 3-4 วัน จึงจะสามารถส่งศพไปให้ญาติบำเพ็ญกุศลต่อได้ ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร จึงต้องมีการตรวจสอบจากหน่วยพิสูจน์หลักฐาน เพื่อให้ชัดเจนเสียก่อน
สำหรับสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน ทั้งการสอบสวนของตำรวจพนักงานสอบสวน ขณะเดียวกันก็มีวิศวกรสวนกลาง จากกรมการขนส่งทางบกตรวจสอบสภาพรถและพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสภาพเบื้องต้นในส่วนของพื้นที่ พบว่ารถตู้ที่เกิดอุบัติเหตุวิ่งค่อมขึ้นไปบนเครื่องกั้นถนน หรือการ์ดเลน ขณะที่การตรวจจับความเร็ว รถคันดังกล่าวใช้ความเร็วตามกฎหมายอยู่ที่ประมาณ 82 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
วิศวกรตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวมีระบบเชื้อเพลิง 2 ระบบ โดยในส่วนระบบแก๊สพบว่าทั้งระบบตัวถังและระบบท่อต่าง ๆ ยังอยู่ในสภาพปกติ แต่ถังน้ำมันของรถคันนี้เกิดการฉีกขาด เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจมาจากขณะเกิดเหตุรถพุ่งชนเครื่องกั้นรุนแรง จนถังน้ำมันฉีกขาด เมื่อเจอประกายไฟก็เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นจนคลอกรถ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การสรุปผลสอบสวนในขั้นนี้ให้พนักงานสอบสวนทราบก่อน ส่วนระบบอื่น ๆ ของตัวรถ ทั้งระบบบังคับเลี้ยว สภาพยาง ยังมีความสมบูรณ์ โดยรถตู้คันดังกล่าว มีการตรวจสภาพ ตามรอบ ที่กฎหมายกำหนด
ส่วนการตรวจสอบเรื่องประกันภัย พบว่ารถคันนี้มีประกันภัยครบถ้วนทั้งภาคบังคับ หรือ พร.บ.ฯ และประกันภัยภาคสมัครใจ กรมการขนส่งทางบก และจากการสอบถามผู้ประกอบการ เจ้าของรถ ได้แสดงความรับผิดชอบ จึงมั่นใจว่าจะมีการดุแลเรื่องการเยียวยา ทั้งผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ได้ตามกฎหมายกำหนด โดยรายละเอียดการคุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ พบว่าคุ้มครองผู้โดยสารที่เสียชีวิต 10 ราย ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. 500,000 บาท ประกันภาคสมัครใจ 500,000 บาท และประกันอุบัติเหตุ 100,000 บาท รวมค่าชดเชยรายละ 1,100,000 บาท ส่วนกรณีคนขับรถ ได้ความคุ้มครองค่าปลงศพจาก พ.ร.บ. 35,000 บาท และประกันอุบัติเหตุอีก 100,000 บาท รวม 135,000 บาท.-สำนักข่าวไทย