ผลออกแล้วคนขับเบนท์ลีย์ ไม่เมา

กรุงเทพฯ 11 ม.ค. – นักธุรกิจซิ่งรถหรูเบนท์ลีย์พุ่งชนรถคู่กรณีบนทางด่วน รอดข้อหาขับขี่ขณะเมาสุรา หลังผลตรวจระดับแอลกอฮอล์ในเลือดพบปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่วนเรื่องความเร็วยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ คาดทราบผลเร็วๆ นี้


จากกรณีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ซิ่งรถหรูเบนท์​ลีย์​ ก่อนประสบอุบัติเหตุพุ่งชนรถดับเพลิงและรถประชาชนได้รับความเสียหาย แต่ไม่ขอเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ ขอใช้สิทธิ์ตรวจผลเลือดเท่านั้น โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้โรงพยาบาลตำรวจเร่งตรวจเลือดของผู้ขับขี่รายนี้และส่งผลตรวจภายในเมื่อวานที่ผ่านมา

ล่าสุด มีรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ ผลการตรวจสอบเลือดของผู้ขับขี่รถยนต์หรูเบนท์ลีย์พุ่งชนรถคู่กรณีบนทางด่วนเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 7 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ออกแล้วจากโรงพยาบาลตำรวจ โดยผลการตรวจเลือดดังกล่าวแหล่งข่าวระดับสูง​ระบุ​ว่า แอลกอฮอล์​ในเลือดของผู้ขับขี่​รายนี้อยู่ที่ประมาณกว่า 10 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อมีการใช้ทฤษฎีคูณย้อนกลับไปหาช่วงเวลาเกิดเหตุก็ยังพบว่าปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่เบนท์ลีย์ ไม่เกิน 45 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงทำให้ทางตำรวจไม่ได้มีการแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการขับขี่ขณะมึนเมาสุราเพิ่มเติมแก่ผู้ขับขี่เบนท์ลีย์ ส่วนเรื่องการตรวจสอบความเร็วขนาดนี้ยังอยู่ที่การตรวจสอบของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้


ขณะที่ในส่วนของการตรวจสอบสารเสพติดขณะนี้ผลการตรวจยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการกำชับเร่งให้ตรวจสอบเรื่องของปริมาณแอลกอฮอล์จึงทำให้ผลตรวจวัดแอลกอฮอล์ออกมาก่อน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนยังมีการเรียกตัวผู้ขับขี่รวมถึงผู้เสียหายที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งความชัดเจนในคดีนี้ทั้งเรื่องของผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์รวมถึงการสอบปากคำเพิ่มเติมของเมื่อคืนที่ผ่านมาต้องรอความชัดเจนจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีการแถลงข่าวชี้แจงในรายละเอียดอีกครั้งในวันนี้. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว