ศาลเลื่อนนัดสอบคำให้การ “พิ้งกี้” และพวก เป็น 29 พ.ย.

กรุงเทพฯ 26 ก.ย.- ศาลเลื่อนตรวจพยานหลักฐาน​-สอบคำให้การ “พิ้งกี้” นักแสดงชื่อดัง แม่ พี่ชาย รวมทั้ง “อภิรักษ์” ผู้บริหาร Forex-3D กับพวก คดี Forex-3D เป็น 29 พ.ย.นี้ เหตุเอกสารในคดีจำนวนมากต้องตรวจสอบให้ละเอียด ส่วนดาราสาวมาในชุดผู้ต้องขังตัดผมสั้น ยังยิ้มสู้ ชูมือสัญลักษณ์โอเค


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.ย.ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐานและสอบคำให้การจำเลยคดี Forex-3D หมายเลขดำ อ.2047/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายกิตติเชษฐ์ หรือสรายุทธ ไชยเดช, น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิ้งกี้ นักแสดงชื่อดัง นางสรินยา ไชยเดช มารดา กับพวกรวม 19 คน เป็นจำเลยที่ 1-19 กรณีฉ้อโกงประชาชนคดี Forex-3D มูลค่าความเสียหาย 2,489,820,321บาท

รวมทั้งคดี Forex-3D อีกสำนวน คดีหมายเลขดำ อ.853/2565 ซึ่งมีนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหาร Forex-3D นายกิตติเชษฐ์ หรือสรายุทธ ไชยเดช พี่ชายนักแสดงสาว กับพวกรวม 5 คน เป็นจำเลยด้วยในความผิดฐานโดยทุจริต โดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกง


กรณีพวกจำเลยหลอกลวงประชาชนผู้เสียหายให้มาร่วมลงทุนเล่นแชร์ Forex-3D ทั้งที่ความจริงแล้วพวกจำเลยไม่ได้ประกอบกิจการซื้อขายหรือเทรดเงินตราต่างประเทศ (Forex) จริงตามที่กล่าวอ้าง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังไม่เคยให้ใบอนุญาตแก่บุคคลหรือนิติบุคคลใด เพื่อให้บริการลงทุนโดยเก็งกำไรจากการซื้อขายหรือเทรดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ในประเทศไทยอีกด้วย โดยพวกจำเลยอาศัยโอกาสจากความมีชื่อเสียง หรือความน่าเชื่อถือของพวกจำเลยที่เป็นดารานักแสดง นักร้อง บุคคลในวงการบันเทิง บุคคล ในวงการสังคมชั้นสูงหรือไฮโซ และรวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ และเมื่อพวกจำเลยได้รับเงินจากประชาชนผู้ร่วมลงทุนไว้แล้ว ได้นำเงินจากประชาชนรายนั้นหรือรายอื่นๆ มาจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน หมุนเวียนให้แก่ประชาชนรายอื่น โดยพวกจำเลยกับพวกมิได้นำเงินไปลงทุนหรือประกอบกิจการอย่างใดให้ได้รับผลตอบแทนคืนให้แก่ประชาชน แต่มีเจตนาหลอกลวงประชาชนที่หวังจะได้รับเงินตอบแทนในอัตราสูง ให้นำเงินมาลงทุน จนมีประชาชนผู้เสียหายหลงเชื่อถูกหลอกลวงจำนวนมาก อันเป็นการกระทำความผิดฐานโดยทุจริต หรืออันเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน รวม 9,824 กรรม มูลค่าความเสียหาย 2,489,820,321.52 บาท

เกิดที่แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร และท้องที่อื่นๆ เกี่ยวพันกัน โดยวันนี้ศาลสอบคำให้การจำเลยทั้งหมดแล้ว ซึ่งแถลงให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี

นอกจากนี้ อัยการโจทก์ยื่นคำร้องขอให้รวมการพิจารณาคดีอาญาหมายเลขดำ อ2047/2565 ของศาลนี้ เข้ากับคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.853/2565 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 265/2565 ของศาลนี้ อ้างว่าจำเลยทั้งสามสำนวนกระทำความผิดในคราวเดียวกัน พยานหลักฐานชุดเดียวกัน ทั้งพนักงานอัยการโจทก์ และทนายความพวกจำเลยแถลงต่อศาลขอเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ออกไปก่อน เนื่องจากเอกสารในคดีนี้มีจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบเอกสารทั้งหมดอย่างละเอียดก่อน


ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีทั้ง 3 สำนวนดังกล่าวเป็นมูลกรณีเดียวกัน พยานหลักฐานชุดเดียวกัน ถ้ารวมการพิจารณาคดีทั้ง 3 สำนวนเข้าด้วยกัน จะเป็นการสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งสำนวนคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 265/2565 ศาลมีคำสั่งให้รวมสำนวนไปแล้ว ส่วนสำนวนคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 2047/2565 ที่โจทก์ยื่นคำร้องขอรวมสำนวนเข้ามาใหม่นั้น ศาลจึงอนุญาตให้รวมสำนวนการพิจารณาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.853/2565 คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 265/2565 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 2047/2565 ของศาลนี้ เข้าด้วยกัน โดยให้ถือสำนวนคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.853/2565 เป็นหลัก ถ้อยคำสำนวนต่อไปให้รวมไว้ในสำนวนนี้ และเพื่อความสะดวกแก่การพิจารณา ให้เรียกจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 853/2565 คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 265/2565 คือว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 ตามเดิม และเรียกนายจำเลยที่ 1 ถึงที่ 19 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 2047/2565 ว่าจำเลยที่ 5
ถึงที่ 24 ตามลำดับ แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้เลื่อนการตรวจพยานหลักฐาน เป็นวันที่ 29 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวจำเลยทั้งหมดขึ้นมาในห้องพิจารณาคดี บรรดาญาติพี่น้องครอบครัวเพื่อนฝูงของพวกจำเลยที่มาดักรอพบหน้าพวกจำเลยจนแน่นทางเดิน ต่างพากันมายกมือทักทายพวกจำเลยที่ด้านหน้าประตูห้อง จนเจ้าหน้าที่ รปภ.และตำรวจศาลต้องมายืนควบคุมสถานการณ์ทั้งด้านในห้องและหน้าห้องพิจารณา พร้อมกันญาติให้ออกห่างจากบริเวณหน้าประตู เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายหรือส่งเสียงดัง ซึ่งเป็นการรบกวนการพิจารณาคดี พร้อมทำความเข้าใจญาติ ไม่ให้สัมผัสตัว ส่งสิ่งของ หรือถ่ายรูปกับจำเลย ซึ่งอาจเป็นการละเมิดอำนาจศาล และอาจมีผลกับการขอประกันตัวจำเลย

ขณะที่จำเลยทั้งหมดเดินมายังห้องพิจารณาคดี​ เพื่อเซ็นเอกสารรับทราบกรณีศาลเลื่อนตรวจพยานหลักฐาน​และสอบคำให้การ นำโดยพิ้งกี้ สาวิกา ที่ตัดผมสั้นเสมอบ่า ไม่สวมใส่รองเท้า เดินจูงมือมากับนางสรินยา มารดา พร้อมชู มือทำท่าสัญลักษณ์โอเค ให้ผู้ที่มาให้กำลังใจโดยไม่มีความเครียดแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”