ป.ป.ช. 4 เม.ย.- หนุน ป.ป.ช.ตรวจสอบทรัพย์สินผู้บริหารมหาวิทยาลัยรัฐ เผย เงินเดือนมากกว่านายกฯ เตรียมยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจย้อนหลัง 13 รองธิการบดีมหิดล ที่ชิงลาออก ก่อนกฎหมายมีผล
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เลขาธิการคณะกรรมการเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ ให้ความเห็นสนับสนุนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีมติให้กำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงตำแหน่งรองอธิการบดี ในสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดรัฐ และสถาบันอุดมศึกษาในกำกับรัฐ ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (5 เม.ย.) จะมายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล 13 คน ลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 1 เมษายน ก่อนที่มติ ป.ป.ช.จะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 3 เมษายน และว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่ ป.ป.ช.จะออกกฎเกณฑ์เพิ่มเติม เพื่อให้มติดังกล่าวมีผลย้อนหลังไปอีก 2-3 เดือน เพราะคิดว่ายังมีรองอธิการบดีจากอีก 200 มหาวิทยาลัย เตรียมจะลาออกกัน เนื่องจากการออกฎเกณ์การแสดงบัญชีทรัพย์สินของ ป.ป.ช.
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า คณาจารย์บางทีมีเงินมากผิดปกติ เพราะตามประมวลกฎหมายรัชฎากร เงินได้ทางการศึกษาไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งอาจจะต้องมีการเสนอแก้ไขกฎหมายต่อไป เรื่องการเก็บภาษีการศึกษาเกี่ยวกับการสอนพิเศษ และว่า รายได้อธิการบดีบางมหาวิทยาลัย มีมากกว่าเงินเดือนของนายกรัฐมนตรี อยู่ประมาณ 20 เท่า นายกรัฐมนตรี มีเงินเดือน 120,000 แต่อธิการบดีมีเงินเดือน 500,000 – 1,000,000 บาท ไม่รวมหลักสูตรพิเศษ จ่ายเงินครบ จบแน่นอน บางมหาวิทยาลัยมีเงินเดือน 7 แสน ไม่รวมค่าประธานหลักสูตรละ 15,000 บาท เดือนหนึ่งมี 20 หลักสูตร ก็ 300,000 บาท ปีหนึ่งกี่ล้าน
“ผมเห็นว่าสิ่งที่ ป.ป.ช.ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เปิดเผยไม่พอ ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะด้วยว่า รองธิการบดีมีเงินเข้า-ออกเท่าไร ทั้งก่อนเข้าและหลังรับตำแหน่ง ควรจะมีการชี้แจง แล้วแปะที่หน้ามหาวิทยาลัยให้นักศึกษาได้ดูว่าอาจารย์ของเรามีทรัพย์สินเท่าไร จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวว่า หากระเบียบ ป.ป.ช.ที่ออกมา ทำให้ อธิการบดี รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยลาออกกันหมด ไม่มีใครกล้ามาเป็นผู้บริหาร ก็ให้เปิดรับสมัครเป็นแบบสรรหา และจ้างเอกชนที่เป็นผู้บริหารเฉพาะกิจไปบริหาร จ้างเป็นเงินเดือนแล้วเขาก็จะเสียภาษีที่ถูกต้อง รวมทั้ง หากมีข้าราชการคนใดสามารถชี้แจงบัญชีทรัพย์สินได้ก็ให้ไปสมัคร
นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ ยังเห็นว่า นอกจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยแล้ว ป.ป.ช.น่าจะออกระเบียบครอบคลุมไปถึงผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งเป็นระดับ 8 และ 9 ด้วย เพราะจะทันช่วงฝากเด็กเข้าโรงเรียน .- สำนักข่าวไทย