“ล่าสัตว์ป่า” แฟชั่นสุดสลด


กรุงเทพฯ 31 มี.ค. –มูลนิธิสืบฯ วอนสังคม ต้านแฟชั่นล่าสัตว์ป่า ด้านบางจากฯ และสมาชิกบัตรน้ำมันร่วมทำความดีบริจาค 13องค์กร


นายธนากร ฮุนตระกูล รองประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวในระหว่าง รับมอบเงินจากคะแนนสะสมของสมาชิกบัตรบางจากฯ ว่า ในขณะนี้น่าเป็นห่วงการล่าสัตว์ป่า กลายเป็นแฟชั่นที่เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ แล้วโชว์ภาพทางโซเชียลมีเดีย  รูปแบบต่างๆ ซึ่งมีให้เห็นเป็นจำนวนมาก เมื่อกลายเป็นแฟชั่น กลุ่มนี้ก็มีเพิ่มมากขึ้น สัตว์ป่าถูกล่าทั้งทำเพื่อความสนุก คึกคะนอง และนำมาจำหน่าย ดังนั้น จึงขอให้สังคมช่วยการต่อต้านและลงโทษคนกลุ่มนี้ และขอให้เจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินการลงโทษทางกฏหมายต่อไป

“การล่าสัตว์ป่าที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งบ่งบอกว่า สัตว์ป่าเพิ่มมากขึ้นจากการร่วมกันดูแลอนุรักษ์ แต่เราก็ไม่ควรให้แฟชั่นล่าสัตว์ป่ายังคงดำรงอยู่”  นายธนากร กล่าว

   ทั้งนี้การล่าสัตว์ป่าเป็นสิ่งผิดกฏหมาย  กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 16 ข้อหาล่าหรือพยายามล่า ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 19 ข้อหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต บทกำหนดโทษ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 16 มาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน สี่ปี หรือปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาท ผู้ที่พบเห็นการกระทำผิดสามารถแจ้งได้ที่ โทรสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางเว็บไซต์ www.dnp.go.th


     เมื่อเร็วๆนี้ ด้านนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากฯ (มหาชน)ได้เป็นตัวแทนมอบเงินจากคะแนนสะสมของสมาชิกบัตรบางจากที่เติมน้ำมันตลอดปี 2559 รวมกับส่วนที่บริษัทฯ บริจาคสมทบเพิ่มเติมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,400,000 บาท ให้กับองค์กรสาธารณประโยชน์รวม 13 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  มูลนิธิคุ้มครองเด็ก  มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ  มูลนิธิธรรมรักษ์  มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย  มูลนิธิแพทย์ชนบท มูลนิธิสืบนาคะเสถียร มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก  มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มูลนิธิรามาธิบดี  สภากาชาดไทย มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และมูลนิธิบ้านบางแค ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แล้ว

          นอกจากนั้น เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมสร้างสังคมไทยที่น่าอยู่ บางจากฯ จึงได้จัดทำโครงการ  “ทุกการช่วยเหลือส่งต่อได้”   ด้วยการสร้างสรรค์คลิป VDO เผยแพร่ทาง Social Media  และให้ผู้ชมช่วยกันแชร์ โดย 1 แชร์ เท่ากับเงิน 1 บาท เมื่อครบ 1 ล้านแชร์ขึ้นไป บางจากฯ จะมอบเงิน (สูงสุดไม่เกิน) 1 ล้านบาท ให้องค์กรสาธารณประโยชน์  เพื่อนำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของแต่ละองค์กรต่อไป  -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล