กรุงเทพฯ 30 มี.ค. – ประธานสภาผู้ส่งออกฯ มั่นใจปีนี้ส่งออกขยายตัวร้อยละ 2-3 จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว แนะปรับยุทธศาสตร์การค้าเจรจาทวิภาคีและพหุภาคี
นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออกฯ คาดว่าการส่งออกปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 2 – 3 จากการที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว โดยไทยจำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศและเจรจาการค้าทั้งทวิภาคีและพหุภาคี ตลอดจนความร่วมมือเป็นพันธมิตรหรือหุ้นส่วนทางการค้ากับคู่ค้าสำคัญ ๆ และตลาดที่มีศักยภาพทุกรูปแบบอย่างเร่งด่วน ใช้การตลาดเชิงรุก
นอกจากนี้ ต้องเร่งดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 โดยจะต้องสร้างความเข้มแข็งทั้งการค้าภายในประเทศ การค้าชายแดน การค้าระหว่างประเทศ การท่องเที่ยว และการลงทุนในต่างประเทศ บนพื้นฐานของเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและการบริการเชื่อมโยงสนับสนุนกัน เร่งปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สร้างสิ่งแวดล้อมเอื้อต่อการเป็นศูนย์กลาง การค้า การเงิน การลงทุน และโลจิสติกส์ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน การอำนวยความสะดวกทางการค้าและดิจิทัลที่ได้ มาตรฐานสากลและเตรียมพร้อมเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ที่แข่งขันกันด้วยความรวดเร็วและเทคโนโลยี พร้อมทั้งต้องพัฒนาบุคลากรและภาคการศึกษาให้มีความพร้อมในการร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ
สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ประกอบด้วย 1. นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ 2. สงครามการค้า ค่าเงิน และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน 3.ความไม่ชัดเจน ความล่าช้า ความล้มเหลว ในการปฏิรูปเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน 4.ผลของการที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) และความไม่มั่นคงของอียู เนื่องจากปัญหาเรื้อรังของประเทศสมาชิก 5.การก่อการร้าย 6.ความขัดแย้งในภูมิภาค 7.ภัยธรรมชาติและโรคระบาด
ส่วนการส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ 2560 มีมูลค่า 18,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 2.76 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 647,360 ล้านบาท หรือหดตัวร้อยละ 5.3 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้การส่งออก 2 เดือนแรกปี 2560 มีมูลค่า 35,569 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต ร้อยละ 2.5 ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมากลุ่มสินค้าส่งออกสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ 2. อัญมณีและเครื่องประดับ และ 3.คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ตลาดส่งออกสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ จีนเติบโตร้อยละ 30 รองลงมา เวียดนาม ร้อยละ 22.42 และสหรัฐ ร้อยละ 7.55 ขณะที่การส่งออกไตรมาส 1 คาดจะเติบโตร้อยละ 1 – 2 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2559 หากการค้าและเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตต่อไปด้วยปัจจัยสนับสนุนตามที่ทุกฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ รุนแรงมากระทบ อาทิ การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของสหรัฐ ญี่ปุ่น การปรับตัวอย่างมีเสถียรภาพของจีน ยุโรป และการปรับขึ้นของน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณ ฑ์จะส่งผลให้การส่งออกในช่วงไตรมาส 2 เติบโต ร้อยละ 2 – 3 ทั้งนี้ ค่าเงินบาททั้งปีคาดจะอยู่ในกรอบ 35.5 – 37.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และราคาน้ำมันอยู่ในกรอบ 50 – 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล .-สำนักข่าวไทย
