ศธ.30 มี.ค.-รมว.ศึกษาฯ เผยความคืบหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดในโรงเรียนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ย้ำหากพบการทุจริตจะดำเนินการให้ถึงที่สุด
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า กรณีการตรวจสอบการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดในโครงการ Safe Zone School (CCTV)12เขตในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งโรงเรียนที่มีการติดตั้งกล้อง CCTV แบ่งเป็นโรงเรียนในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)จำนวน 10 เขต สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)จำนวน 2 เขต รวม 1,104 แห่ง หลังมีกล้องจำนวนมากใช้งานไม่ได้ ส่อเเววอาจมีฮั้วประมูลหรือทุจริต ว่า วันนี้(30 มี.ค.) ทีมคณะทำงานของตน นำโดย พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ จะกลับมารายงานผลการสืบข้อเท็จจริงหลังจากลงพื้นที่ จ.สงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหากว่าพบการทุจริตเกิดขึ้น ตนจะดำเนินการให้ถึงที่สุด และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐในระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้องจริง จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อ
ด้านสำนักป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)เปิดเผยข้อมูลล่าสุด ว่า พบความผิดปกติหลายประเด็น ทั้งการล็อคสเป็ค การตั้งราคากลางที่สูงกว่าราคาในท้องตลาด สินค้าไม่ได้มาตรฐาน ไม่รองรับระบบสัญญาณไฟและไม่เชื่อมต่อกับระบบการตรวจสอบข้อมูลของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ บริษัทที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ ในสัญญา แม้ว่าการติดตั้งกล้องวงจรปิดจะแล้วเสร็จ แต่คณะกรรมการตรวจรับทุกชุดอาจจะต้องมีความผิดเนื่องจากลงนามตรวจรับอุปกรณ์ที่ไม่ตรงตามข้อตกลงในสัญญา จากการสุ่มตรวจบางโรงเรียนพบว่า ต้องมีการติดตั้ง 16 จุด แต่ปรากฏว่ามีการติดตั้งจริงเพียง 6 จุดเท่านั้น ซึ่งป.ป.ท.จะเสนอให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย