ประธานกรรมการสิทธิฯ วอนสังคมอย่าสับสนปมเหตุการตาย “ชัยภูมิ”กับคดียาเสพติด

กทม. 27 มี.ค.-  นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีทหารวิสามัญฆาตกรรม  นายชัยภูมิ ป่าแส  นักกิจกรรมชาวลาหู่ ว่า หลังเกิดเหตุ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นควรให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีดังกล่าว  เนื่องจากสังคมมีความสงสัยว่าเป็นการกระทำสมควรแก่เหตุ ได้สัดส่วนกับพฤติการณ์แห่งคดีหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งการไต่สวนการตายและคดียาเสพติด ในส่วนของกรรมการสิทธิฯ นอกจากรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาถึงการกระทำในเหตุการณ์ดังกล่าวว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่แล้ว  ยังมุ่งหมายที่จะสนับสนุนและแนะนำทั้งสองฝ่ายคือ เจ้าหน้าที่ของรัฐกับญาติของผู้เสียชีวิตให้สามารถรวบรวมและนำพยานหลักฐานทั้งหมดขึ้นสู่การไต่สวนของศาลตามสิทธิที่มี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อันเป็นการรับรองและคุ้มครองสิทธิของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ตกอยู่ท่ามกลางความสุ่มเสี่ยงที่อาจถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  เช่นเดียวกับญาติผู้เสียชีวิตที่อาจต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการถูกครหาจากสังคม


ทั้งนี้นางเตือนใจ ดีเทศน์ ประธานอนุกรรมการด้านสถานะบุคคล สิทธิกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง และนางอังคณา นีละไพจิตร ประธานอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ได้ลงพื้นที่เพื่อรับทราบสถานการณ์และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสนับสนุนการแสวงหาและรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อส่งมอบให้คณะอนุกรรมการด้านสิทธิในกระบวนการยุติธรรมที่มี นายชาติชาย สุทธิ กรรมการสิทธิฯ เป็นประธาน เพื่อดำเนินการตรวจสอบก่อนที่จะนำไปสู่การพิจารณาของกรรมการสิทธิฯ ต่อไป

“สังคมไม่ควรสับสนระหว่างการค้นหาความจริงเกี่ยวกับสาเหตุการตายกับการค้นหาความจริงเกี่ยวกับคดียาเสพติดของผู้เสียชีวิต เพราะชีวิตของมนุษย์ทุกคนมีคุณค่า การทำให้บุคคลสูญเสียชีวิตโดยรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงเป็นเรื่องที่ต้องมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และตกอยู่ในสภาพการณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ประการสำคัญผู้กระทำต้องมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย”นายวัสกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว