นายกรัฐมนตรี พอใจหลังลงพื้นที่จังหวัดนครพนม

นครพนม 27 มี.ค. – นายกรัฐมนตรี พอใจหลังลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ระบุประชาชนเข้าใจการทำงานของรัฐบาลมากขึ้น พร้อมจะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพื้นที่แลกเปลี่ยนกับประเทศเพื่อนบ้าน


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประชุมหารือร่วมระหว่างคณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) โดยมีคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารภาคเอกชนเข้าร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการเกษตรและอาหาร  โดยที่ประชุมเห็นชอบหลักการเรื่องการเกษตรและอาหารดังนี้ เห็นชอบหลักการเรื่องการส่งเสริมป่าเศรษฐกิจครอบครัว เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ เห็นชอบหลักการโครงการ Sanuk Colors Food Valley : Diversity of Functional Organic เห็นชอบหลักการโครงการ Sanuk Farmer market และเห็นชอบหลักการโครงการนำร่อง “การบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน จังหวัดมุกดาหาร” 

โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องรับไปศึกษา พิจารณาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการ พร้อมให้จัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณอย่างละเอียด และให้คำนึงถึงข้อเท็จจริงในการลงทุน ว่าถ้ามีการลงทุนไปแล้วจะเกิดผลประโยชน์และมีความคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่ แผนงานโครงไหนสามารถใช้งบประมาณของกระทรวง และกลุ่มจังหวัดได้ก็ขอให้ใช้งบประมาณดังกล่าว ส่วนไหนที่ไม่สามารถใช้งบประมาณที่มีอยู่แล้วได้ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนตามความเป็นไปได้ต่อไป


นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบหลักการเรื่องการพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง และเห็นชอบหลักการโครงการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเส้นทางไทย ลาว เวียดนาม และจีน โดยมอบหมายให้กระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬาเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของการดำเนินโครงการร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง พร้อมได้พิจารณาเรื่องการบริหารจัดการน้ำ โดยที่ประชุมเห็นชอบหลักการโครงการพัฒนาและบินสำรวจแหล่งน้ำบาดาลด้วยวิธีทางธรณีฟิสิกส์เพื่อสนับสนุนแผนบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมและเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ขอให้จ่ายงบประมาณอย่างเชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของชาติทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ด้านความมั่นคง สร้างความสามารถในการแข่งขัน เสริมสร้างศักยภาพคน สร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปรับสมดุลพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ พร้อมกับขอให้ปรับแนวคิด แผนการดำเนินโครงการให้เป็นปัจจุบันทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อประสิทธิภาพและประโยชน์ของโครงการ

พล.อ.ประยุทธ์ แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดนครพนมวันนี้ (27 มี.ค.) เป็นที่น่ายินดีที่ประชาชนเข้าใจรัฐบาลมากขึ้น หลายอย่างเป็นการทำงานเชิงยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลวางไว้ในระยะ 20 ปี  ซึ่งหลังจากที่ได้ชมนิทรรศการก็มีความภูมิใจที่หลายอย่างก้าวหน้า เห็นแววตาแห่งความร่วมมือของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  โดยรัฐบาลจะทำให้ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุด สำหรับจังหวัดในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านถือว่ามีชัยภูมิที่ดี และมีศักยภาพเรื่องการท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าควรกำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแลกเปลี่ยนกันในระดับภูมิภาค เน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เป็นเสน่ห์ของท้องถิ่น เพราะจะให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยอย่างเดียวคงเป็นไปไม่ได้ โดยอาจทำเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันในแถบประเทศใกล้เคียง 


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงปัญหาการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ว่า ขอให้ประชาชนและกลุ่ม NGO เข้าใจและคำนึงถึงเรื่องนี้ว่าจะอยู่อย่างนี้ได้หรือ เพราะปัจจุบันรัฐบาลพยายามสร้างแหล่งน้ำชลประทานเพิ่มเติม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่อสำรองน้ำนั้นมีจำกัด 

“ขออย่ามองว่ารัฐบาลจะดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์กับใคร ส่งน้ำไม่ได้ ระบายน้ำไม่ได้ เหล่านี้เป็นปัญหาหมด เรามีเขื่อนแต่ไม่พอ ซึ่งทุกคนต้องคิดด้วยว่าการทำงานต้องให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด”นายกรัฐมนตรีกล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มุกดาหาร และสกลนครนายอำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และส่วนท้องถิ่น ที่ร่วมมือกัน โดยระบุว่า ขออย่าทำให้แตกแยก ทุกอย่างต้องไปด้วยกันเดินไปพร้อมกันทั้งหมด ทั้งส่วนกลางส่วนท้องถิ่น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”