ก.แรงงาน 27 มี.ค.-ลูกจ้างบริษัทตัดเย็บเสื้อผ้า ร้องกระทรวงแรงงาน ถูกนายจ้างลอยแพ อ้างเหตุล้มละลาย
นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคณะกรรมการ สมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) พร้อมด้วยลูกจ้าง บริษัท บริติช-ไทยซินเทติคเท็กส์ไทล์ เข้าพบนายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ เป็นตัวกลางในการประสานงาน พร้อมช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของลูกจ้างกว่า 120 คน เป็นคนไทย 98 คน แรงงานข้ามชาติ 22 คน ที่ถูกบริษัท บริติช-ไทยซินเทติคเท็กส์ไทล์ ซึ่งประกอบธุรกิจตัดเย็บเสื้อป้าส่งออก ใน อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสงคราม เลิกจ้าง เพราะปิดกิจการเนื่องจากล้มละลาย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 โดยไม่รับเงินชดเชยและสิทธิประโยชน์ตามที่กฎหมายระบุ
โดยเฉพาะต้องการความช่วยเหลือ เยียวจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างของรัฐ เพราะขณะนี้กรมบังคับคดีได้เข้าดำเนินการยึดทรัพย์นายจ้างทั้งหมดแล้ว
โดยที่ผ่านมา ทางลูกจ้างได้พยายามร้องขอความเป็นธรรมจากหลายหน่วยงานหลายช่องทาง ทั้งสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จังหวัด ตำรวจ ศูนย์ดำรงธรรม ในพื้นที่ รวมถึงกรมบังคับคดี แต่ก็ยังล่าช้า และล่าสุดหอพักที่นายจ้างเคยจัดให้เป็นสวัสดิการสำหรับคนงาน ก็ถูกนายจ้างสั่งตัดน้ำ ตัดไฟ อยู่อย่างยากลำบาก
ดังนั้น เพื่อให้เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและปกป้องสิทธิของลูกจ้าง คสรท.จึงขอให้กระทรวงแรงงานเร่งแก้ปัญหา และดำเนินการตามข้อเสนอเร่งด่วน 3 ข้อ คือ 1.ช่วยให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างให้เร็วที่สุด 2.ให้ลูกจ้างที่อยู่ในหอพักบริษัทเพื่อรอการชดเชยได้มีน้ำและไฟฟ้าใช้ ต่อไปได้จนกว่าจะได้รับค่าชดเชยและสิทธิประโยชน์อื่นๆตามกฎหมาย 3.ขอให้ประสานงานกับส่วนที่เกี่ยวข้องให้ลูกจ้างได้รับการชดเชยก่อนเจ้าหนี้รายอื่น และตั้งกองทุนช่วยเหลือลูกจ้าง ประกันความเสี่ยงกรณีถูกเลิกจ้างเนื่องจากนายจ้างปิดกิจการแล้วไม่จ่ายค่าชดเชยและสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ทั้งนี้ นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว ในส่วนของหอพัก เบื้องต้น สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทราสาคร ได้ประสานไปยังเจ้าทรัพย์ ซึ่งคือธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งรับปากว่าจะเข้าเจรจากับลูกจ้างในวันจันทร์ 3 เมษายนนี้ เพื่อหาทางบรรเทาความเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม กสร.จะเข้าไปเป็นตัวกลางในการเจรจาด้วย เพื่อให้ลูกจ้างได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนเรื่องคดี ได้ประสานไปยังกรมบังคับคดี ดูลู่ทางในการเรียกร้องสิทธิประโยชน์เงินรายได้ของลูกจ้างตามกฎหมายอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ทรัพย์สินของนายจ้างถูกอายัดไว้หมดแล้วและเงินที่นายจ้างค้างจ่ายลูกจ้าง เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นหลังมีคำสั่งอายัดทรัพย์ ดังนั้นคงต้องดูเรื่องกฎหมายอีกครั้ง ขณะที่เงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างที่เร่งให้จ่ายเงินสงเคราะห์นั้น ได้แจ้งลูกจ้างทั้งหมดแล้วว่า คณะกรรมการมาจาก 3 ฝ่าย คือฝ่ายรัฐ นายจ้างและลูกจ้าง จะเร่งหารือดูผลประโยชน์ให้ ผลจะออกมาเป็นเช่นไรตอนนี้ยังให้คำตอบไม่ได้.-สำนักข่าวไทย