กรุงเทพฯ 21 มี.ค.-เหตุเพลิงไหม้อาคารสำนักงานใหญ่ การประปาส่วนภูมิภาคนานกว่า 3 ชั่วโมงวานนี้ ส่งผลให้เอกสารที่เก็บไว้ในพื้นที่ต้นเพลิงเสียหายทั้งหมด หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการทำลายหลักฐานทุจริตใน กปภ.ที่ สตง.กำลังเดินหน้าตรวจสอบหรือไม่?
เหตุเพลิงไหม้อาคารสำนักงานใหญ่การประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งเกิดเหตุชั้น 4 จัดเก็บเอกสารสำคัญจำนวนมาก จึงเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี ทำให้การดับไฟต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง เบื้องต้น วสท.ยันอาคารไม่ทรุด พบความเสียหายเพียงชั้นลอยที่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างหลังคา หลังนายก วสท.ยืนยันว่าไฟไหม้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคาร เจ้าหน้าที่สามารถเข้าขนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ได้ตั้งชั้น 1-3
ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ห้องกองกิจการ ซึ่งมีเอกสารรายงานผลปฏิบัติงานต่างๆ รวมถึงรายละเอียดงบประมาณ ไฟลามไปห้องข้างๆ ที่เก็บเอกสารสำคัญ ส่วนจะเป็นเอกสารที่ สตง.จะตรวจสอบหรือไม่ ตำรวจไม่สามารถระบุได้ แต่ กปภ.เชื่อว่าเอกสารน่าจะเก็บไว้ในไฟล์ การตั้งข้อสังเกตว่าไฟไหม้ครั้งนี้จะเป็นการทำลายหลักฐานทุจริตหรือไม่ ผู้ว่าฯ กปภ.ยันส่งเอกสารให้ สตง.แล้ว และข้อมูลสำคัญอยู่ที่ฝ่ายกฎหมาย โดยปมทุจริตทั้ง 7 เรื่อง ได้ตั้งกรรมการสอบแล้ว พร้อมการันตีในยุคที่ตนทำหน้าที่จะไม่ปกป้องคนผิด
อย่างไรก็ตาม ประเด็นเพลิงไหม้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุชัดมาจาก 3 สาเหตุ คือ ประมาทเลินเล่อ ไฟฟ้าลัดวงจร และวางเพลิง ที่ต้องสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
ส่วนนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตรวจสอบการทุจริตใน กปภ.กว่า 33 เรื่อง ตั้งข้อสังเกต อาจต้องการทำลายหลักฐานการทุจริต
มีรายงานว่า นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าฯ สตง. เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมเอกสารที่ได้รับจาก กปภ. ซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อประเมินว่าเอกสารครบถ้วน เพียงพอที่จะเดินหน้าตรวจสอบปมทุจริตต่อได้หรือไม่ ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริง ต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐาน.-สำนักข่าวไทย
