กทม.20 มี.ค.-กทม.เตรียมพร้อมรับมือ ป้องกันโรคติดต่อในช่วงหน้าร้อน โดยเฉพาะโรคพิษสุนัขบ้า แนะคาถา 5 ย.ป้องกัน
นายชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.)เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมรับมือและป้องกันโรคติดต่อและภัยสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในฤดูร้อนของ กทม. ว่า ในช่วงฤดูร้อนจะมีโรคต่างๆ ที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนี้ โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรคหรือสารพิษ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด อหิวาตกโรคและโรคไข้ไทฟอยด์ ซึ่งแนวทางป้องกันโรคสามารถทำได้ด้วยการจัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพ เช่น แยกขยะก่อนทิ้งและทิ้งขยะให้ถูกที่ นอกจากนี้สามารถปรับสุขอนามัยส่วนบุคคล คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
สำหรับโรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคที่สามารถทำอันตรายถึงชีวิตได้ ที่ผ่านมาสำนักอนามัย กทม.ได้ดำเนินการทั้งเชิงรุกและตั้งรับตลอดทั้งปี ดังนี้ 1.มาตรการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยง ให้บริการในคลินิก และหน่วยเคลื่อนที่ดำเนินโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีน ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทำหมัน และขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง โดยดำเนินการนำร่องใน 5 เขต ได้แก่ บางขุนเทียน บางนา หนองจอก พระโขนง และมีนบุรี
2.การควบคุมจำนวนสัตว์พาหะนำโรคพิษสุนัขบ้า ด้วยการคุมกำเนิดสุนัขและแมวด้วยวิธีผ่าตัดทำหมัน การจับสุนัขจรจัดไปเลี้ยงดูจนหมดอายุขัยในศูนย์พักพิงสุนัข กทม. และการจดทะเบียนสุนัขตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข พ.ศ. 2548
3.การเฝ้าระวัง ควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์และในคน ซึ่งเมื่อได้รับแจ้งจะดำเนินการจับสุนัขที่แสดงอาการสงสัยโรคพิษสุนัขบ้าไปกักสังเกตอาการ รวมถึงจัดทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคพิษสุนัขบ้าเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่สอบสวนโรคภายใน 24 ชั่วโมงหลังได้รับรายงานการตรวจพบสัตว์เป็นโรคพิษสุนัขบ้าจากห้องปฏิบัติการ ดำเนินการค้นหาคนที่ถูกสัตว์เป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัด หรือสัมผัสเพื่อให้การรักษา รวมทั้งจับสุนัขที่ถูกกัดไปสังเกตอาการ เพื่อตัดวงจรการแพร่โรค และ 4.การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชน
นอกจากนี้ประชาชนสามารถป้องกันตนเองจากโรคพิษสุนัขบ้าด้วย “คาถา 5 ย.”ได้แก่ ย.1 อย่าแหย่ ให้สุนัขโมโห ย.2 อย่าเหยียบ หาง หัว ตัว ขา หรือทำให้สุนัขตกใจ ย.3 อย่าแยก สุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า ย.4 อย่าหยิบ จานข้าวหรือเคลื่อนย้ายอาหารขณะสุนัขกำลังกินอาหาร และ ย.5 อย่ายุ่ง หรือเข้าใกล้สุนัขที่ไม่รู้จัก หรือไม่มีเจ้าของ
ส่วนโรคผิวหนัง ได้แก่ผดร้อน กลากเกลื้อน รูขุมขนอักเสบ มักพบบริเวณที่เหงื่อออกมากหรืออับชื้น ป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการอยู่บริเวณที่มีแสงแดดเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรใส่เสื้อแขนยาว กางร่มและใส่แว่นกันแดด ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ถ้าอยู่ในที่ร่มไม่ควรใส่เสื้อผ้าหนาและรัดเกินไป ไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ หรืออับชื้น ในหน้าร้อนควรสระผมบ่อยๆ เนื่องจากศีรษะที่อับชื้นเป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อราที่ศีรษะได้
สำหรับความเจ็บป่วยที่เกิดจากความร้อน (Heat Illness) เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป สูญเสียน้ำ ทำให้ร่างกายไม่สามารถปรับอุณหภูมิได้ทัน จนทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น แบ่งตามความรุนแรงจากน้อยไปหามากเป็น 4 ประเภท ดังนี้ ภาวะลมแดด ภาวะตะคริวจากความร้อน ภาวะอ่อนเพลียจากความร้อนและโรคลมแดด โดยเฉพาะโรคลมแดด จะไม่มีเหงื่ออก ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศรีษะ มึนงง คลื่นไส้ อาเจียนและอาจหมดสติ หรือชักเกร็ง หากพบผู้ที่น่าสงสัยว่าเป็นลมแดด ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล และระหว่างนั้นควรรีบนำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่อากาศร้อนเข้าที่ร่ม เปิดพัดลมให้อากาศถ่ายเท คลายเสื้อผ้าผู้ป่วยออก ถ้าผู้ป่วยไม่หมดสติให้ดื่มน้ำเย็นปริมาณมาก ทำให้ตัวผู้ป่วยเย็น โดยใช้พัดลมเป่า ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัว หรือพ่นละอองน้ำบนตัวผู้ป่วย หากผู้ป่วยหมดสติและอาเจียนให้จับศรีษะผู้ป่วยหันไปด้านข้างเพื่อป้องกันการสำลัก
และการจมน้ำ ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทยในช่วงปิดเทอมโดยเฉพาะในเดือน เม.ย. ผู้ปกครองจึงไม่ควรปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพังแม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ .-สำนักข่าวไทย
