ศิษย์เผยเก็บ เกศาหลวงปู่ใหญ่ 5 ปีแปรเป็นพระธาตุ



อุดรธานี 21 ธ.ค.-ลูกศิษย์เผยหลังหลวงปู่ใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระเถระ 5 แผ่นดิน ละสังขาร พบเส้นผมของหลวงปู่บางส่วน จับตัวเป็นเม็ดเล็กๆ สีขาวขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว


21-12-2559 23-26-3921-12-2559 23-26-22

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ภายในศาลาการเปรียญเฉลิมพระเกียรติ จัดงานบำเพ็ญกุศลครบ 7 วัน สารีระพระอุดมญาณโมลี (จันทร์ศรี จันทททีโป) หรือหลวงปู่ใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระเถระ 5 แผ่นดิน อายุ 105 ปี 2 เดือน 4 วัน 85 พรรษา โดยช่วงสายมีการแสดงพระธรรมเทศนา, พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์, ถวายภัตราหารเพลพระสงฆ์ 100 รูป และช่วงเย็นจัดให้สวดอภิธรรมปกติ ติดต่อไปจนถึงวันที่ 24 มีนาคม 25560

พระลูกวัดและลูกศิษย์ที่ถวายงานรับใช้ หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป ร่วมกันเปิดเผยว่า ขณะหลวงปู่ใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ ลูกศิษย์ที่เป็นช่างภาพอิสระ ได้ร่วมรับใช้ร่วมกับลูกศิษย์ จัดทำทำหนังสืออนุสรณ์ 100 ปี โดยได้ถ่ายภาพหลวงปู่ใหญ่ในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งก่อนหลวงปู่ใหญ่จะถ่ายภาพ พระลูกศิษย์ ได้โกนผมหลวงปู่ใหญ่ จากนั้นก็เริ่มถ่ายจนแล้วเสร็จ หลังถ่ายเสร็จพระหมอ หรือพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด อุดรธานี ได้มอบเส้นผมของหลวงปู่ให้เป็นที่ระลึก


ลูกศิษย์หลวงปู่ใหญ่ ยังบอกต่ออีกว่า หลังจากนั้นผู้ที่นำเส้นผมของหลวงปู่ใหญ่กลับบ้าน แวะไปซื้อผอบจากร้านสังฆภัณฑ์เพื่อบรรจุเส้นผมของหลวงปู่ที่ได้รับไป เมื่อบรรจุแล้วเอาไปเก็บไว้บนหิ้งพระ กราบไหว้บูชาด้วยความเคารพ จากนั้นก็นำมาเก็บไว้บูชา หลังหลวงปู่ใหญ่ละสังขาร และมีข่าวว่าเลือดของหลวงปู่ใหญ่ แปรเป็นพระธาตุ จึงนึกได้ว่า เคยมีเส้นผมของหลวงปู่ใหญ่ จึงนำมาดูปรากฏว่าเส้นผมของหลวงปู่ใหญ่บางส่วน จับตัวเป็นเม็ดเล็กๆ สีขาวขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ส่วนเส้นผมที่ไม่แปรเป็นพระธาตุก็จะมีสีขาวใสเมื่อถูกแสงจะเป็นประกายระยิบระยับ จึงหาโกศแก้วมาแยกบรรจุส่วนที่เป็นพระธาตุ กับส่วนที่เป็นเส้นผม

ขณะที่พระลูกวัด รูปหนึ่ง เปิดเผยว่า มีโอกาสได้โกนผมให้หลวงปู่ใหญ่ ก็ได้เก็บเส้นผมหลวงปู่ใหญ่ไว้ และหลังหลวงปู่ใหญ่ละสังขาร เส้นผมที่เก็บไว้ในโหลพลาสติกก็เริ่มจับตัวเป็นก้อน แต่ยังไม่แปรเป็นพระธาตุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสมีลูก 2 คนกับอดีตสามี ส่วนสามีคนปัจจุบัน คือ คู จุน ย็อบ หรือดีเจ คู เป็นนักร้องชาวเกาหลีใต้วัย 55 ปี.-814.-สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” พอใจผลเลือก อบจ. เผย “ทักษิณ” ทำเต็มที่

“นายกฯ แพทองธาร” พอใจผลเลือกตั้งนายก อบจ. บอกต้องนำมาวิเคราะห์หมด ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เผย “ทักษิณ” ทำเต็มที่ คุ้มสตางค์ค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง แจงปราศรัยเดือดไม่ใช่คาแรคเตอร์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้