นนทบุรี 25 ธ.ค. – กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าสร้างความพร้อมผู้ประกอบการไทยเปิดประตูสู่ 5 ประเทศเพื่อนบ้าน CLMMV ติวเข้มแบบเจาะลึก ประเดิมประเทศแรกรองรับมาตรการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้าติดตัวของ สปป.ลาว
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ เร่งสร้างความพร้อมให้กับผู้ประกอบการไทยบริเวณรอบพื้นที่จังหวัดชายแดน เพื่อรองรับมาตรการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้าติดตัวของประเทศเพื่อนบ้านและส่งเสริมให้เกิดการค้าชายแดนอย่างเต็มที่ โดยปี 2560 เตรียมสร้างความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการไทยเพื่อเปิดประตูการค้าสู่ 5 ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนม่าร์ มาเลเซีย และเวียดนาม หรือ CLMMV โดยกำหนดหลักสูตร “สร้างความพร้อมทางการค้าสู่ CLMMV” เพื่อให้ความรู้ผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดน คือ หนองคาย นครพนม อุบลราชธานี สระแก้ว เชียงราย ตาก และ สงขลา
สำหรับจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับ สปป.ลาว จะเป็นพื้นที่แรกที่กรมฯ ลงพื้นที่สร้างความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการ เนื่องจากมีด่านถาวรหลายแห่ง ได้แก่ จังหวัดหนองคาย มี 2 ด่าน คือ ด่านท่าเสด็จ อ.เมือง และด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมือง จังหวัดนครพนม มี 2 ด่าน คือ ด่านเทศบาลเมือง อ.เมือง และด่านสะพานมิตรภาพ อ.เมือง (นครพนม-คำม่วน) จังหวัดอุบลราชธานี มี 3 ด่าน คือ ด่านปากแซง อ.นาตาล ด่านช่องเม็ก อ.สิรินธร และด่านช่องอานม้า อ.น้ำยืน , เดือนกุมภาพันธ์ 2560 จะลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว มีด่านถาวร 3 ด่าน คือ ด่านบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา ด่านบ้านหนองปรือ อ.อรัญประเทศ และด่านบ้านเขาดิน อ.คลองหาด , เดือนมีนาคม 2560 ลงพื้นที่จังหวัดที่ติดกับประเทศเมียนม่าร์ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย มี 5 ด่านถาวร คือ ด่านเชียงของ อ.เชียงของ ด่านสะพานมิตรภาพ 4 อ.เชียงของ ด่านเชียงแสน อ.เชียงแสน ด่านสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ด่านสะพานข้ามแม่น้ำแม่สาย อ.แม่สาย และด่านสะพานข้ามแม่น้ำแม่สาย 2 อ.แม่สาย จังหวัดตาก มี 1 ด่านถาวร คือ ด่านริมเมย อ.แม่สอด และเดือนเมษายน 60 จะลงพื้นที่จังหวัดสงขลา มีด่านถาวร 3 ด่าน คือ ด่านสะเดา อ.สะเดา ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา และด่านบ้านประกอบ อ.นาทวี
นอกจากนี้ กรมฯ ได้จับมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ หอการค้าจังหวัด สถาบันการเงิน สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย และร้านค้าส่งค้าปลีกทั่วประเทศ สร้างความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็ก โดยจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “เทคนิคบริหารค้าปลีกอย่างมืออาชีพ” เป็นการเสริมสร้างความรู้และเทคนิคในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการร้านค้าปลีกอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นให้สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติได้จริงในการสร้างระบบบริหารจัดการร้านให้มีรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น รู้จักสร้างเอกลักษณ์เฉพาะแก่ร้านค้าตนเองเพื่อมัดใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน คาดว่าจะมีธุรกิจค้าส่ง-ปลีก และธุรกิจเอสเอ็มอีที่เกี่ยวเนื่อง เข้าร่วมเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างความพร้อมและความเข้มแข็งทางการค้าทั้ง 2 กิจกรรม รวมกว่า 1,000 ราย.-สำนักข่าวไทย