รัฐสภา 11 พ.ย. – สนช.รับหลักการวาระ 1 ร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กำหนดห้ามขายบุหรี่ให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีจากเดิม 18 ปี ห้ามแบ่งขาย ห้ามแจก-โฆษณา ฝ่าฝืนจำคุก-ปรับ หวังลดจำนวนคนสูบลง
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวว่า เพื่อปรับปรุงการกำหนดมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และยกระดับการคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน จากโรคภัยที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ยาสูบ จึงยกเลิกพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 และพ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 ที่บังคับใช้มานาน เนื่องจากไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่จะควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและคุ้มครองสุขภาพประชาชนให้มีประสิทธิภาพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.คือ กำหนดห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ห้ามจ้างวาน หรือ ยินยอมให้บุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ขาย ให้ผู้ขายปลีกผลิตภัณฑ์แสดงสื่อรณรงค์เพื่อการลด ละ เลิกการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบ ห้ามจ่ายแจกผลิตภัณฑ์ยาสูบในลักษณะตัวอย่าง หรือเพื่อจูงใจให้บริโภค กำหนดสถานที่ห้ามขาย เช่น วัด สถานบริการสาธารณสุข ห้ามแสดงชื่อหรือเครื่องหมายผลิตภัณฑ์ยาสูบเพื่อการโฆษณา ฝ่าฝืนต้องระวางโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า การห้ามผู้ประกอบการ ผู้ให้การอุปถัมภ์กลุ่มบุคคล หรือหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในการสร้างภาพลักษณ์ โฆษณาต่อผลิตภัณฑ์ยาสูบ ห้ามผลิต ขาย นำเข้าเพื่อขายหรือแจกจ่าย โฆษณา ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะทำให้เข้าใจว่าเป็นสิ่งเลียนแบบผลิตภัณฑ์ยาสูบ และเพื่อคุ้มครองสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของประชาชน ได้กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบต้องมีส่วนประกอบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ห้ามแบ่งขายผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตขนาดบรรจุต่ำกว่า 20 มวนต่อซอง และกำหนดเขตปลอดบุหรี่ โดยข้อห้ามทั้งหมดจะควบคุมดูแลโดยคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สนช.ส่วนใหญ่สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี สนช. เชื่อว่า หากมีกฎหมายบังคับให้เพิ่มอายุผู้สูบบุหรี่จาก 18 ปี เป็น 20 ปี จะทำให้จำนวนคนที่สูบบุหรี่ลดลง
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช.มองว่า ต้องหา มาตรการควบคุมการโฆษณาแฝงทางสื่อออนไลน์ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมเห็นด้วยกับข้อห้ามแบ่งขายบุหรี่ เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่แม้อาจกระทบเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย
นายมณเฑียร บุญตัน สนช. เห็นว่า ควรสร้างแรงจูงในการลดการปลูกยาสูบและหันไปปลูกพืชชนิดอื่น เพื่อจะช่วยทำให้การควบคุมการผลิต การสูบ การจำกัดพื้นที่สาธารณะในการสูบ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ รวมถึงเพิ่มการโฆษณาให้เห็นถึงภัยของผลิตภัณฑ์ยาสูบในสื่อทางเลือกให้เยาวชนสามารถเข้าถึงได้
ด้านนายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน สมาชิก สนช.เห็นว่า บางข้อบังคับในร่างกฎหมายฉบับนี้สุดโต่งเกินไป จึงเป็นห่วงว่าจะมีผลต่อการบังคับใช้จริง
นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิก สนช. อภิปรายในฐานะที่เป็นผู้สูบบุหรี่คนหนึ่งโดยเห็นว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้คำนึงถึงผู้ที่ยังไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ โดยน่าจะมีเสียงจากผู้ที่สูบบุหรี่ซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยร่วมเป็นกรรมการที่จะสะท้อนความเห็นในอีกแง่มุม
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สมาชิก สนช.เห็นควรให้ลดการโฆษณาทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อป้องกันผู้สูบรายใหม่ไม่ให้หันมาสูบบุหรี่ เช่นให้มีภาพที่ไม่ดีบนซองบุหรี่ และเห็นด้วยว่าไม่ให้ขายบุหรี่แบ่งซอง เพราะส่วนใหญ่เด็กและเยาวชนจะมีกำลังซื้อน้อยกว่า โดยจะซื้อแบบแบ่งขาย จึงน่าจะช่วยลดจำนวนคนสูบบุหรี่ลงได้และเห็นว่าข้อบังคับในร่างกฎหมายนี้ไม่สุดโต่งเกินไป แต่ออกกฎหมายเพื่อขยับให้ไทยเป็นไปตามมาตรฐานของประเทศส่วนใหญ่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ร่างกฎหมายนี้จะช่วยให้สุขภาวะของคนไทยดีขึ้นอย่างชัดเจน และร่างกฎหมายนี้มุ่งหวังที่จะปกป้องเด็กและเยาวชนให้พ้นจากยาสูบที่เป็นอันตราย หาก สนช. ช่วยกันพิจารณาปรับแก้ให้ออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ก็จะเป็นประโยชน์
หลังการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ที่ประชุม สนช.มีมติรับหลักการวาระ 1 ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 159 เสียง งดออกเสียง 5 ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ จำนวน 21 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 15 วัน กำหนดเวลาทำงาน 60 วัน โดยประชุมนัดแรก 15 พ.ย. 2559
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าก่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ มีเครือข่ายแม่ 4 ภาค เข้ายื่นหนังสือต่อสนช.ผ่านนายตวง อันทะไชย สนช. ขอให้เร่งผ่านร่างควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ให้มีผลบังคับใช้ เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน ให้ปลอดภัยจากบุหรี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกเพราะข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า มีเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่และสารเสพติดอื่นจำนวน 4 แสนคน และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นปี ละ 2 แสนคน โดยมีคนไทยป่วยจากการสูบบุหรี่มากถึง 1.5 ล้านคน
และหลังที่ประชุม สนช. รับหลักการวาระ 1 ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มีตัวแทนจากมูลนิธิเครือข่ายหมอ อนามัยและเครือข่ายยุวทัศน์กทม. มอบดอกไม้ต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. เพื่อขอบคุณ .-สำนักข่าวไทย