สนช.รับหลักการร่างกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ

4628647รัฐสภา 11 พ.ย. – สนช.รับหลักการวาระ 1 ร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กำหนดห้ามขายบุหรี่ให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีจากเดิม 18 ปี ห้ามแบ่งขาย ห้ามแจก-โฆษณา ฝ่าฝืนจำคุก-ปรับ หวังลดจำนวนคนสูบลง


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ  โดยนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวว่า เพื่อปรับปรุงการกำหนดมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และยกระดับการคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน จากโรคภัยที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ยาสูบ จึงยกเลิกพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 และพ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 ที่บังคับใช้มานาน  เนื่องจากไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่จะควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและคุ้มครองสุขภาพประชาชนให้มีประสิทธิภาพ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.คือ กำหนดห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ห้ามจ้างวาน  หรือ ยินยอมให้บุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ขาย ให้ผู้ขายปลีกผลิตภัณฑ์แสดงสื่อรณรงค์เพื่อการลด ละ เลิกการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบ ห้ามจ่ายแจกผลิตภัณฑ์ยาสูบในลักษณะตัวอย่าง หรือเพื่อจูงใจให้บริโภค กำหนดสถานที่ห้ามขาย เช่น วัด สถานบริการสาธารณสุข  ห้ามแสดงชื่อหรือเครื่องหมายผลิตภัณฑ์ยาสูบเพื่อการโฆษณา ฝ่าฝืนต้องระวางโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 1 ปี  หรือปรับไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านบาท  หรือ ทั้งจำทั้งปรับ


นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า การห้ามผู้ประกอบการ ผู้ให้การอุปถัมภ์กลุ่มบุคคล หรือหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในการสร้างภาพลักษณ์ โฆษณาต่อผลิตภัณฑ์ยาสูบ ห้ามผลิต ขาย นำเข้าเพื่อขายหรือแจกจ่าย โฆษณา ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะทำให้เข้าใจว่าเป็นสิ่งเลียนแบบผลิตภัณฑ์ยาสูบ และเพื่อคุ้มครองสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของประชาชน  ได้กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบต้องมีส่วนประกอบและสารที่เกิดจากการเผาไหม้ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ห้ามแบ่งขายผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิกาแรตขนาดบรรจุต่ำกว่า 20 มวนต่อซอง และกำหนดเขตปลอดบุหรี่  โดยข้อห้ามทั้งหมดจะควบคุมดูแลโดยคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สนช.ส่วนใหญ่สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้  คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี สนช. เชื่อว่า หากมีกฎหมายบังคับให้เพิ่มอายุผู้สูบบุหรี่จาก 18 ปี เป็น 20 ปี จะทำให้จำนวนคนที่สูบบุหรี่ลดลง

นพ.เจตน์  ศิรธรานนท์ สนช.มองว่า ต้องหา มาตรการควบคุมการโฆษณาแฝงทางสื่อออนไลน์ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมเห็นด้วยกับข้อห้ามแบ่งขายบุหรี่ เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่แม้อาจกระทบเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย


นายมณเฑียร บุญตัน สนช. เห็นว่า ควรสร้างแรงจูงในการลดการปลูกยาสูบและหันไปปลูกพืชชนิดอื่น เพื่อจะช่วยทำให้การควบคุมการผลิต การสูบ การจำกัดพื้นที่สาธารณะในการสูบ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายนี้  รวมถึงเพิ่มการโฆษณาให้เห็นถึงภัยของผลิตภัณฑ์ยาสูบในสื่อทางเลือกให้เยาวชนสามารถเข้าถึงได้

ด้านนายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน สมาชิก สนช.เห็นว่า บางข้อบังคับในร่างกฎหมายฉบับนี้สุดโต่งเกินไป จึงเป็นห่วงว่าจะมีผลต่อการบังคับใช้จริง

นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิก สนช. อภิปรายในฐานะที่เป็นผู้สูบบุหรี่คนหนึ่งโดยเห็นว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้คำนึงถึงผู้ที่ยังไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ โดยน่าจะมีเสียงจากผู้ที่สูบบุหรี่ซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยร่วมเป็นกรรมการที่จะสะท้อนความเห็นในอีกแง่มุม

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ  สมาชิก สนช.เห็นควรให้ลดการโฆษณาทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อป้องกันผู้สูบรายใหม่ไม่ให้หันมาสูบบุหรี่ เช่นให้มีภาพที่ไม่ดีบนซองบุหรี่ และเห็นด้วยว่าไม่ให้ขายบุหรี่แบ่งซอง เพราะส่วนใหญ่เด็กและเยาวชนจะมีกำลังซื้อน้อยกว่า โดยจะซื้อแบบแบ่งขาย จึงน่าจะช่วยลดจำนวนคนสูบบุหรี่ลงได้และเห็นว่าข้อบังคับในร่างกฎหมายนี้ไม่สุดโต่งเกินไป แต่ออกกฎหมายเพื่อขยับให้ไทยเป็นไปตามมาตรฐานของประเทศส่วนใหญ่

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ร่างกฎหมายนี้จะช่วยให้สุขภาวะของคนไทยดีขึ้นอย่างชัดเจน และร่างกฎหมายนี้มุ่งหวังที่จะปกป้องเด็กและเยาวชนให้พ้นจากยาสูบที่เป็นอันตราย  หาก สนช. ช่วยกันพิจารณาปรับแก้ให้ออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ก็จะเป็นประโยชน์

หลังการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ที่ประชุม สนช.มีมติรับหลักการวาระ 1 ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 159 เสียง งดออกเสียง 5 ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ จำนวน  21 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 15 วัน กำหนดเวลาทำงาน 60 วัน โดยประชุมนัดแรก 15 พ.ย. 2559

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าก่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ  มีเครือข่ายแม่ 4 ภาค เข้ายื่นหนังสือต่อสนช.ผ่านนายตวง อันทะไชย สนช.  ขอให้เร่งผ่านร่างควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ  ให้มีผลบังคับใช้ เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน ให้ปลอดภัยจากบุหรี่  ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกเพราะข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า มีเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่และสารเสพติดอื่นจำนวน 4 แสนคน และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นปี ละ 2 แสนคน โดยมีคนไทยป่วยจากการสูบบุหรี่มากถึง 1.5 ล้านคน

และหลังที่ประชุม สนช. รับหลักการวาระ 1 ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มีตัวแทนจากมูลนิธิเครือข่ายหมอ อนามัยและเครือข่ายยุวทัศน์กทม. มอบดอกไม้ต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. เพื่อขอบคุณ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]